
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 68 พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการเน้นหนักให้หน่วยงานด้านการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมของ สตม. สืบสวนหาข่าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมืองและชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม.
พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขานรับนโยบาย ผบช.สตม. หลังล่าสุดได้รับข้อมูลสายจากข่าว เกี่ยวกับพฤติกรรมการถ่ายทอดสดการขายของออนไลน์ผ่านช่องทางแอปพลีเคชั่นออนไลน์สัญชาติจีน ชื่อ DOUYIN (โต่วอิน) และสถานที่การถ่ายทอดสดการขายของ ศูนย์การค้าชื่อดัง บนถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานเด็กและตำรวจ สน.ห้วยขวาง ร่วมกันตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว ในช่วงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย.68
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการดาวโหลดแอปฯ ดังกล่าว โดยปกปิด ip address ผ่าน VPN เพื่อเข้าไปชมการถ่ายทอดสด โดยพบว่าเป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่กำลังถ่ายทอดสดผ่านชื่อบัญชีภาษาจีน ซึ่งเป็นการเข้าชมได้แบบสาธารณะจากประเทศจีน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังแฝงตัวเข้าไปดูสถานที่ตั้งดังกล่าว ซึ่งเป็นร้านที่มีลักษณะเป็นห้องกระจกเปิดภายในร้านขายเครื่องสำอางและสมุนไพรไทยต่าง ๆ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 2140 ชั้น 2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป
เมื่อมาถึงที่ด้านหน้าร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่เห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวจีน กำลังทำงานถ่ายทอดสดการขายของประเภทสินค้าทั่วไปอยู่ภายในร้าน จึงทำการพิสูจน์ทราบโดยการสังเกตุคำพูดและเปรียบเทียบจากแอปพลิเคชั่นที่กำลังจะถ่ายทอดสด ปรากฎว่าเป็นสถานที่เดียวกันและเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันซึ่งแบ่งหน้าที่กันทำงาน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบ
ซึ่งผลการตรวจสอบ พบว่ากลุ่มคนต่างด้าวกระทำผิดจริง จึงได้ทำการจับกุมคนต่างด้าวชาวจีนจำนวน 14 คน โดยมีชาวจีน 1 รายเป็นกรรมการผู้จัดการ ด้วยการแสดงตัวเป็นนายจ้าง ผู้ดูแลสถานที่ ไลฟ์สดในร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา“รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาติ“ ส่วนอีก 13 ราย ถูกแจ้งข้อหา ” เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือสิทธิจะทำได้”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดสินค้าหลายรายการ เช่น แชมพูสกัดจากขิง สบู่ ลิปสติก ครีมอาบน้ำ ยาดม ครีมบำรุงผิว น้ำหอมและอื่น ๆ อีกกว่า 80 รายการ เพื่อตรวจสอบการจดแจ้งและการขออนุญาตจำหน่ายจากหน่วยงานที่มีอำนาจ หากพบว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562
รวมถึง พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจโทภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้สั่งการเด็ดขาดว่า ให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดและขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิด ในช่วงลักษณะดังกล่าว หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีเบาะแสหรือข้อมูล สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่หมายเลข 1178 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน 0816235473