
ความคืบหน้ากรณี นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนอุ้มขึ้นรถยนต์แล้วหายตัวไปเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 18 พ.ค.เจ้าหน้าที่พบศพนายวราพงษ์ หรือดีเจเตเต้ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณศรีษะแล้วนำร่างไปทิ้งกลางป่าละเมาะท้องที่บ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว ธนเดช หรือ กิ่ง 1 ในผู้ต้องหาเอาไว้แล้ว 1 ราย
ต่อมาศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมลงมือก่อเหตุเพิ่มอีก 4 ราย ประกอบด้วย
1.นายนพพิจิตร ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (คนขับรถเก๋งสีดำ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ มจ.304/2568 ลงวันที่ 18 พ.ค.2568
2.นายธราเทพ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทำหน้าที่ชี้เป้า) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ มจ.305/2568 ลงวันที่ 18 พ.ค.2568
3.นายภัคนัท ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (นั่งไปในรถเก๋ง) ผู้ต้องาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ มจ.306/2568 ลงวันที่ 18 พ.ค.2568
และ 4.นายณรงค์เดช ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าของบ้านพักที่หลังก่อเหตุผู้ต้องหาไปรวมตัวกันก่อนที่จะวางแผนในการหลบหนี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ มจ.307/2568 ลงวันที่ 18 พ.ค.2568
ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน 1.“ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปและเป็นการกระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่
2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันลอบฝั่ง เผา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการเสียชีวิต,
3.ร่วมกันกระทำใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป,
4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด,
และ 5.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสารธารณะ โดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนสมควรแก่พฤติการณ์ และ ซ่องโจร โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย มีเงินรางวัลนำจับรวม 1 แสนบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดวันนี้ 18 มิ.ย.68 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี ได้รับการประสานจาก พันเอก ซอ เอวัน (เพียวลิน) ผู้บังคับการยุทธวิธี 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA)ว่า กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA)ได้จับกุมตัวนายธราเทพ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาเอาไว้ได้ ขอให้ทางการไทยมารับตัวที่ช่องทาง 6 พันไร่
พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาที่บริเวณจุดนัดหมาย ครั้งนี้พันเอก ซอ เอวัน (เพียวลิน) ได้นำตัวผู้ต้องหามามอบให้กับทางการไทยด้วยตนเอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.สังขละบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ
เบื้องต้นนายธราเทพ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนมีหน้าที่เพียงแค่ชี้เป้าเท่านั้น โดยไม่มีส่วนร่วมในการลงมือฆ่าดีเจเตเต้ และตนไม่รู้จักกับ 3 ผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี ครั้งแรกตนเข้าใจว่าเป็นเพียงแค่เรื่องชู้สาวและจะมีการทะเลาะกันเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้รับค่าจ้างในการชี้เป้าแต่อย่างใด และหลังจากชี้เป้าตนรอจนกว่าผับปิด จากนั้นจึงแยกย้ายกลับบ้านพัก จนกระทั่งมาทราบข่าวดังกล่าวตจึงหลบหนีมาอาศัยอยู่ที่อำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในวันนี้ ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post