บิ๊กแจง เปิดที่ทำการ บก.สอท.3 กลางเมืองขอนแก่นตั้งฐานที่มั่นปราบโจรออนไลน์ภาคอีสาน พร้อมดูแลพี่น้องประชาชนกว่า 22 ล้านชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 3 ก.ค.68 ที่ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.3 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นำโดย พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว บิ๊กแจง เปิดที่ทำการ บก.สอท.3 กลางเมืองขอนแก่น ตั้งฐานที่มั่นปราบโจรออนไลน์ภาคอีสาน พร้อมดูแลพี่น้องประชาชนกว่า 22 ล้านชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 3 ก.ค.68 พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. ได้เป็นประธานในพิธีเปิดที่ทำการ บก.สอท.3
แห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 272 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยมีทั้งพิธี
เจริญพระพุทธมนต์ และ พิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 หรือ บก.สอท.3 โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บช.สอท. หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.สอท.3 เข้าร่วมพิธี นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังมีการประชุมบริหารราชการของ บช.สอท. ซึ่งจัดขึ้น ณ ที่ทำการ บก.สอท.3 แห่งใหม่เป็นครั้งแรก

โดยกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 หรือ บก.สอท.3 นั้น ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ครอบคลุม 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธรอำนาจเจริญ ชัยภูมิ และ บึงกาฬ รวมพื้นที่กว่า 168,854 ตารางกิโลเมตร มีประชากรหนาแน่นกว่า 22 ล้านคน ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพรมแดนที่ยาวและติดกับประเทศลาวและกัมพูชา จึงมีลักษณะเชิงยุทธศาสตร์ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ

สำหรับ บก.สอท.3 เดิมนั้น มีที่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 10 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ต่อมาในปี พ.ศ.2564 ได้ย้ายมาดำเนินการในพื้นที่รับผิดชอบจริง โดยตั้งที่ทำการชั่วคราว ณ อาคารเช่าเลขที่ 177/49
หมู่ที่ 17 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยมีพิธีเปิดอาคารดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง (ผบช.สอท. ในขณะนั้น) เป็นประธานในพิธี

กระทั่งปี พ.ศ.2566 บก.สอท.3 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 131,344,000 บาท สำหรับก่อสร้างอาคารที่ทำการ 5 ชั้น พร้อมอาคารบ้านพักข้าราชการตำรวจ ประเภทแฟลต 5 ชั้น จำนวน 2 หลัง รองรับ
ผู้เข้าพักอาศัยจำนวน 80 ครอบครัว ในพื้นที่ราชพัสดุ ขนาด 169 ไร่ ณ เลขที่ 272 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ
ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยเริ่มเปิดใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568

ในส่วนอาคารที่ทำการ บก.สอท.3 แห่งใหม่นั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความสะดวก ทันสมัย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.สอท.3 พร้อมปฏิบัติราชการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนและผู้เสียหายที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับแจ้งความ การนัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการให้บริการในการสืบสวน สอบสวน แลกเปลี่ยนความรู้ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปถึง กทม. อีกต่อไป

ปัจจุบัน บก.สอท.3 มีกำลังพลทั้งสิ้น จำนวน 252 นาย โดยแบ่งโครงสร้างการปฏิบัติงานเป็น 6 กองกำกับการ ได้แก่ ฝ่ายอำนวยการ, กองกำกับการ 1 – 4 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ โดย บก.สอท.3 ได้มี พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ดำรงตำแหน่ง ผบก.สอท.3 เป็นลำดับแรก ตั้งแต่ 1 ต.ค.63 – 10 ม.ค.66

ต่อมา พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ได้รับการดำรงตำแหน่งต่อ ตั้งแต่ 11 ม.ค.66 – 30 ก.ย.67 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผบก.สอท.3 ตั้งแต่ 15 ม.ค.68 จนถึงปัจจุบัน

โดยภายใต้การบริหารราชการของ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 นั้น ได้ยึดมั่นในแนวทาง
“การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเชี่ยวชาญ ทันสมัย พร้อมรับใช้ประชาชน” โดยมีวิสัยทัศน์หลักคือ “เชี่ยวชาญ ทันสมัย ป้องกันภัยออนไลน์ พร้อมรับใช้ประชาชน”

ซึ่งภายใต้วิสัยทัศน์ดังกล่าว บก.สอท.3 มีความมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากร เครื่องมือดิจิทัล และระบบบริการประชาชน ให้สามารถตรวจสอบ ป้องกัน และรับมือภัยคุกคามทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม พร้อมกับการเป็น “Cyber Police ” ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ทุกระดับ ตามวิสัยทัศน์ ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ที่ว่า “ตำรวจไซเบอร์พึ่งพาได้ ลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน