วันนี้ 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อพบปะเครือข่ายสื่อมวลชนภาคตะวันตก ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนภาคตะวันตก เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ ปปส.ภาค 7 ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน นบ.ยส. 17 ตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน
สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว สำนักงาน ปปส.ภาค 7 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 7 – วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมพีลูส จังหวัดกาญจนบุรี และศึกษาดูงาน ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ณ นบ.ยส. 17 และศึกษาดูงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยกลไกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ณ เทศบาลตำบลหนองตากยา โดยผลที่คาดว่า

จะได้รับจากการจัดโครงการในครั้งนี้ คือ เกิดความเชื่อมโยงและพัฒนาช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. กับภาคีเครือข่ายต่างๆ และเครือข่ายสื่อมวลชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินงานประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น
สำหรับหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส. 17) จัดตั้งขึ้นตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรื่อง กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ตามมาตรา 5 (10) แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายเร่งด่วนในการสกัดกั้นยาเสพติด พื้นที่ชายแดนภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.เมืองฯ อ.ไทรโยค และ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี โดยมีภารกิจปฏิบัติการ Seal Stop Safe (ระหว่าง 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2568) เพื่อเร่งลดและควบคุมอาชญากรรมและยาเสพติดตามแนวชายแดน ประกอบด้วย
- ฝ่ายทหาร การปฏิบัติที่สำคัญ ในชายแดนชั้นนอก ควบคุมการใช้กำลังทุกภาคส่วน (ทหาร ตำรวจ ปกครอง ศุลกากร กอ.รมน.) ยับยั้ง สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบการนำเข้ายาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์
- ฝ่ายตำรวจ การปฏิบัติที่สำคัญในพื้นที่ชายแดนและตอนใน จับกุมนักค้าตามเป้าหมาย สืบสวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามการลักลอบลำเลียงผ่านระบบโลจิสติกส์
- ฝ่ายปกครอง ปฏิบัติการผนึกกำลังจัดตั้งกลไกร่วมกับภาคประชาชนเฝ้าระวัง หาข่าวในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวัง สกัดกั้นยาเสพติด ยับยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
- กอ.รมน. ใช้กำลังมวลชนชายแดน สนับสนุนการสกัดกั้นยาเสพติดร่วมกับทุกฝ่าย
- สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนดเป้าหมายและประสานกับหน่วยงานต่างประเทศเพื่อจับกุมนักค้าที่หลบหนีไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งอำนวยการ กำกับ ติดตามและประเมินผล
ทั้งนี้ สถานการณ์ปัญหายาเสพติดชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี พบการลักลอบนำเข้ายาบ้า 50 ล้านเม็ด เมื่อปี งบประมาณ 2567 สำหรับปีงบประมาณ 2568 ไม่พบว่ามีการนำเข้าในปริมาณมาก แต่ยังมีการปราบปราม จับกุมนักค้ารายสำคัญ และรายย่อยในพื้นที่ทั้งชายแดนและตอนในได้อย่างต่อเนื่อง และยังพบการพักเก็บและความพยายามลักลอบส่งออกสารเคมี เช่น กรดไนตริก และกรดซัลฟิวริก ที่เป็นตัวทำปฏิกิริยาในกระบวนการผลิตยาเสพติดได้
ดังนั้น ชายแดนและตอนในของจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่จะสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไปสู่พื้นที่อื่น ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ตลอดจนสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ในมิติด้านการแพร่ระบาด พบว่าผู้เข้ารับการบำบัดส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มรับจ้าง ซึ่งเป็นวัยแรงงาน อายุ 25 – 44 ปี และด้วยความหลากหลายของสภาพพื้นที่ เช่น พื้นที่ท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรม ตลอดจนความแตกต่างในมิติประชากร อาชีพ อายุ รายได้ จึงทำให้พบปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สำนักงาน ป.ป.ส. นบ.ยส.17 และภาคีเครือข่าย จึงขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยบูรณาการทุกมาตรการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องรวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเพื่อลดความเดือนร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด
//////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post