
วันที่ 10 กรกฎาคม 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล วรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยาจ.พระนครศรีอยุธยา พบมี พุทธศาสนิกชน นำอาหารคาวหวาน มาร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ในวันอาสาฬหบูชาเวลา 07.30 น. พระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดใหญ่ ชัยมงคล วรวิหาร ร่วมกับพระสงฆ์ทำพิธีสวดมนต์ และนำพระสงฆ์ตักอาหารทั้งคาวหวานที่ประชาชนนำมาทำบุญใส่บาตร ตามประเพณีโบราณ และหลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนยังได้ร่วมรับฟังธรรมเทศนา เพื่อก่อให้เกิดสติปัญญา เสริมสิริมงคลแก่ผู้ฟังธรรม เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เนื่องในวันอาสาฬหบูชา
ด้าน นายมานิต ไหมเหลือง อายุ 57 ปี พาครอบมาทำบุญ ที่วัดใหญ่ชัยมงคล วรวิหาร เป็นประจำทุกเทศกาล เพราะเชื่อและศรัทธาในองค์ท่านเจ้าอาวาสว่าท่าน เป็ึพระปฎิบัติดี เคร่งในพุทธศาสนา ส่วนวัดที่ตนเองไม่รู้จักก็จะไม่ได้เดินทางไปทำบุญ ตนเองยังเชื่อในศรัทธาพระพุทธศาสนา และก็ยังคงพาครอบครัวเดินทางมา ทำบุญตลอด
นางสาว ชญาณ์พิมพ์ อรัญยะรงค์ 55 ปี พนักงานโรงงาน เผย ตนเองเดินทางมาทำบุญตักบาตรตามปกติเพราะเรายังคงศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เราก็อยากให้ประชาชนแยกแยะ ว่าในส่วนที่ผิดก็คือผิด แต่
เพราะพระท่านไม่ได้เป็นทุกองค์ และก็ยังศรัทธาและทำบุญที่วัด เพราะเราทำบุญกับพระพุทธศาสนาอยู่แล้วเราไม่ทำตัวกับบุคคล ตนเอวยังคงต้องบุญให้กับครอบครัวและ บรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมฝากไปถึงประชาชนที่นับถือศาสนา เพราะเชื่อว่าพระพุทธศาสนาท่านสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เพียงแต่ว่าคนบางคน มาอาศัยผ้าเหลือง แล้วทำตัวเสื่อมเสีย เราก็ต้องดูและช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งอย่างไรก็ตามคนที่มาบวช อยากให้ท่านละทิ้งและละเว้นกิเลสตัณหาให้มากกว่านี้ ประชาชนก็จะศรัทธามากขึ้น มีกระแสข่าวแบบนี้ในภาพรวมก็จะทำให้วัดและศาสนาเสื่อมมากขึ้น ชืและที่เป็นข่าวก็จะมีแต่วัดๆและวัดใหญ่ใหญ่ซึ่งเงินที่ประชาชนนั้นไปทำบุญก็อยากให้พระท่านนำไปพัฒนาวัด