จากกรณีนายกิตติศักดิ์ ติณโสภารัตน์ หรือเสี่ยโอ๊ต ช่างรับเหมาก่อสร้างได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และได้ถูกโจรย่องเข้าห้องกลางดึก เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 68 ที่ผ่านมา ขณะเจ้าตัวนอนหลับกับหลาน 2 คน โดยโจรได้ขโมยทองคำไปกว่า 13 บาทไปมีทั้งสร้อยคอ เลสข้อมือ และปี่เซียะ มูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง และไปร้องเรียนทั้งกองปราบ เพจสายไหมต้องรอด รวมถึงจ่าคิงส์แตงทิมสะพานใหม่ จนบัดนี้ผ่านมา 5 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.คลองหลวง จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย อ.มานพ สีเหลือง เพจสะพานใหม่ และทีมงานได้พานายกิตติศักดิ์ ติณโสภารัตน์ หรือเสี่ยโอ๊ต ช่างรับเหมาก่อสร้างที่ถูกโจรฉกทองไป 13 บาทเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง โดยมีพ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง รับเรื่องร้องเรียนจากคดีดังกล่าว
นายกิตติศักดิ์ ติณโสภารัตน์ หรือเสี่ยโอ๊ตกล่าวว่าคดีของตนที่ถูกโจรลักทรัพย์ทองคำหนัก 13 บาทไปผ่านมา 5 เดือนแล้วคดีไม่มีความคืบหน้าซึ่งทอง 13 บาทนั้นปัจจุบันนี้ราคาทองขึ้นมีมูลค่านับล้านบาทแล้วซึ่งเป็นต้นทุนนำมาใช้เป็นเงินหมุนเวียนธุรกิจรับเหมาของตนแต่ปัจจุบันนี้ธุรกิจตกต่ำไม่มีเงินทุนหมุนเวียนครอบครัวทั้งพ่อ แม่ ภรรยา และลูกต้องประสบความลำบากในการใช้ชีวิตจึงมาร้องจ่าคิงส์เพื่อให้ตามทองคืนเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจหากไม่ได้ทองคืนธุรกิจตนคงต้องปิดกิจการแน่นอน
จ่าคิงส์ แตงทิมกล่าวว่าวันนี้ได้นำผู้เสียหายมาติดตามตวามคืบหน้าคดีซึ่งพ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวงได้ลงมารับเอกสารด้วยตัวเองโดยคดีนี้อยากจะให้ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวงเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีพร้อมกับสืบสวนว่าหากมีการขายไปที่แห่งไหนให้ดำเนินคดีแก่ผู้รับซื้อในคดีรับซื้อของโจร ทั้งนี้สงสารนายกิตติศักดิ์เป็นอย่างมากเพราะทองคำที่หายไปเป้นเงินทุนก้อนสุดท้ายของเขา
ส่วนทางด้านพ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวงกล่าวว่าตั้งแต่เกิดเหตุมาทางชุดสืบสวน สภ.คลองหลวงได้ติดตามคดีอย่างต่อเนื่องมาตลอดโดยไม่ได้นิ่งนอนใจซึ่งได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการสอบสวนแล้วแต่หลักฐานยังไม่มีความชัดเจนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามคดีนี้สุดความสามารถอย่างที่สุดต่อไป
