ยะลาวิกฤตหนัก ตัวเลขพุ่งเกือบ 700 ราย ขณะที่ จนท.เชิงรุกคนหาเชื้อโควิค-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่

  สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ของ จ.ยะลา ในวันนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 671 ราย แยกเป็น อำเภอเมืองยะลา 295 ราย อำเภอเบตง 53 ราย อำเภอรามัน 100 ราย อำเภอยะหา 54 ราย  อำเภอบันนังสตา 59 ราย อำเภอกาบัง 28 ราย อำเภอธารโต 39ราย อำเภอกรงปินัง 43 ราย เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดของภาคใต้ในขณะนี้ อันเนื่องมาจากการติดเชื้อภายในโรงงานยาง บริษัท ยางไทยปักต์ใต้ จำกัด (สาขายะลา) และประชาชนติดเชื้อในคนหมู่มากสวนสาธารณะ รวมตัวร้านอาหาร และการร่วมกิจกรรมในชุมชนและครอบครัว 

 ล่าสุด วันที่ 23 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บริเวณตลาดสด ผังเมือง 4 เขตเทศบาลนครยยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ทางสำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครยะลา ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา และ อสม.ชุมชน ตั้งจุดให้บริการ ในการปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเชิงรุก ให้แก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา โดยเป็นการปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อการเข้าถึงพี่น้องประชาชน ที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือ ต้องสงสัยว่าตนเอง มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ ให้สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ในทันที ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก เทศบาลนครยะลาและ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา และ อสม.ชุมชน ย่านผังเมือง 4 คอยให้บริการแก่พี่น้องประชาชนที่เดืนทางเข้ารับการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK โดยในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ตั้งจุดให้บริการที่ ตลาดสดผังเมือง 4 และในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ก็จะไปตั้งจุดตรวจให้บริการพี่น้องประชาชน บริเวณตลาดนัด สวนขวัญเมืองยะลา(พรุบาโกย)ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนในจังหวัดยะลา ได้ให้ความร่วมมือ ตั้งแต่การกำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ การเข้ารับวัคซีน และ การตรวจหาเชื้อในเชิงรุก ซึ่งพี่น้องประชาชน บางส่วนที่มีความไม่มั่นใจ ว่าตนเองอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ และอยากเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพื่อทันต่อการเข้ารับการรักษา และการบรรเทาอาการป่วยหากติดเชื้อไวรัส ก็สามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งเพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่จังหวัดยะลา หลังยังพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในห้วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก็สืบเนื่องจากการปฏิบัติการเชิงรุกในการเร่งตรวจหาเชื้อ โดยได้เพิ่มความเข้มในการควบคุมการเข้า-ออกจังหวัด ให้ผู้ที่มีความจำเป็นในการเข้าออก แจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ และทำการสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อบันทึกประวัติการเดินทาง นอกจากนี้ สำหรับร้านอาหารที่ผ่อนคลายให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 20.00 น. และผู้ที่นั่งรับประทานต้องผ่านการรับวัคซีนป้องกันเชื้อโรคไวรัสโควิด-19อย่างน้อย 1 เข็ม นอกจากนี้ยังสั่งการไปยังศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคประจำอำเภอ เทศบาล ให้ควบคุมดูแลการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด หากพบการละเมิดคำสั่งควบคุม ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที