
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานข่าวคืบหน้า กรณีที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) นำชุดสืบสวนเฉพาะกิจของ สตช. ลงลุยเกาะรังนก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง จนมีผู้ต้องสงสัยเข้ามามอบตัว 1 ราย ก่อนที่ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้มีหนังสือให้นายตำรวจ 4 นายมาปฏิบัติราชการที่ที่ ศปก.ภ.จว.พัทลุง เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการขโมยรังนกและทำลายพันธุ์นกอีแอ่นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยบริสุทธิ์ และยุติธรรมกับทุกฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไปนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายของวันนี้(ที่ 26) ที่บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ท้องที่ ม.9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว กำลังตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง ตาม สภ.ต่างๆ จำนวน 8 นาย ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้ระดมสอบปากคำกลุ่มคนงานชุดรับจ้างจัดเก็บรังนกที่ทางบริษัทว่าจ้างมาจัดเก็บรังนกจากพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง และพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา รวม 47 คน ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วในวันที่ 22,24-26 ก.ย.64 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ หลังจากนี้จะมีการระดม พงส.ทั่วจังหวัด มาสอบปากคำ จนท.รัฐที่เฝ้ารังนกประมาณและผู้เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 120 นายต่อไป
ส่วนกรณีที่ พ,ต,ต,วรา เวชชาภินันท์ ผบก ภ.พัทลุง มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ สังข์แสง ย้ายไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ล่าสุด พล.ต..ท.รณศอลป์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ศติศ สุวรรณกูล ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทน ผู้กำกับตำรวจภูธรปากพะยูน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.เป็นต้นไป
นายนริศ ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฏร เพื่อที่จะให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไขดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการขโมยรังนก โดยหน่วยงานแรกคือตำรวจในชุดของ รอง ผบ ตร. พล.ต.องสุชาติ ธีระสวัสดิ์ ได้ลงพื้นที่สอบสวนหาผู้กระทำผิด และได้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ถือว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก
แต่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเตรียมจะเดินทางไปทวงถามรัฐมนตรีว่าการประทรวงมหาดไทย เพื่อให้สอบสวนการเชื่อมโยงและเอาผิดความบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่จนมีการขโมยรังนก ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส. ปลัด รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพย์ ที่ลงไปเฝ้าเกาะแต่ไม่รักษาสมบัติของชาติไว้ได้ ปล่อยให้มีการขโมยรังนกอีเอ่นจนเกลี้ยงถ้ำ แต่จนถึงขณะนี้ทั้ง 2 หน่วยงานยังไม่ออกมารับผิดชอบหรือสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างได
นอกจากนี้ จะทำหนังสือถึงเลขาธิการ ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าหมู่เกาะรังนก รวมถึงคนใกล้ชิด ผู้บังคับบัญชา ในการโอนเงินเข้าบัญชีช่วงที่มีการเฝ้าเกาะรังนก ตลอด3 เดือนที่ผ่านมา เพราะตนเชื่อว่าเส้นทางการเงินของขบวนการขโมยรังนกจะมีการเชื่อโยงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นการกระทำที่น่าอับอาบในการปกป้องสมบัติของชาติ

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.ผู้ยกร่าง พรบ.รังนก พศ.2540 เผยว่า การแก้ปัญหารังนกไม่ต้องให้อัฐวินขี่ม้าขาวมาแก้ปัญหาให้ ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ผวจ. / ตำรวจ และ อบจ.จะต้องร่วมมือแก้ปัญหากันเอง ตราบใดที่ผู้เกี่ยวข้องกับรังนกเข้าไปมีประโยชน์จากการประมูลรังนกไม่ว่าทางตรงและทางอ้อมความวุ่นวายก็ไม่มีวันสิ้นสุด ในสมัยที่นายวินัย บัวประดิษฐ์ เป็น ผวจ.พัทลุง ซึ่งมีราคาประมูลรังนกได้มากถึง 450 ล้านบาท ยังถูกพิษรังนกเล่นงานจนโดนย้ายมาแล้ว ชาวพัทลุงจะต้องเรียนรู้เรื่องรังนก เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่เช่นนั้นแล้ว ผวจ.พัทลุงก็จะถูกพิษรังนกเล่นงานเหมือนดั่งนายกู้เกียรติฯ ซึ่งอาจะจะถูกพิษรังนกเล่นงานเหมือนกับนายวินัยฯ อดีต ผวจ.พัทลุงที่ผ่านมา
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พัทลุง กล่าวว่า ในถานะนั่งที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ก็ได้ทักท้วงและแจ้งเบาะแสกรณีที่คนร้ายขโมยรังนกช่วงที่มีเจ้าหน้าที่เฝ้ารักษาความปลอดภัย แต่ที่ประชุมของคณะกรรมการที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นั่งเป็นประธานก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ อย่างกรณีที่เจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้พร้อมของกลางที่มีทั้งรักนกอีแอ่นและยาบ้า ตำรวจกว่าจะลงพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานก็ใช้เวลานานครึ่งเดือน หลักฐานที่พอจะมีอยู่บ้างก็หายไปหมดแล้วจึงแสดงให้เห็นว่าผู้มีอำนาจไม่ค่อยได้สนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ปล่อยให้กลุ่มคนร้ายเหิมเกริม ขโยมยรังนก จุดไฟในถ้ำแบบล้างผลาญ ยิ่งมีการปล่อยคลิปเสียงที่ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าปากถ้ำเปิดทางให้โจรรังนกเดินทางออกจากถ้ำ หลังจากที่ขโมยรังนกจนหมดถ้ำแล้ว ก็ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในจังหวัด พอจะรู้ว่ามีข้าราชการระดับจังหวัดและอำเภอมีส่วยเกี่ยวข้อง เพราะฉนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และถ้าหากยังมีท่าทีที่เมินเฉย ตนก็พร้อมที่จะจับมือกับชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์พัทลุง เคลื่อนออกมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงพิจารณาย้ายตัวเอง เพื่อเปิดโอกาสให้คนดีๆได้เข้ามาแก้ปัญหา
ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงปล่อยออกมาแฉ ให้ทราบว่ามีข้าราชการเปิดทางให้โจรเข้าขโมยรังนกนั้น จริงๆแล้วได้รับมอบคลิปเสียงและเก็บไว้นานแล้ว ไม่เคยคิดจะปล่อยคลิปประจานใคร และไม่เคยมอบคลิปให้ใครด้วย ยกเว้นพนักงานสอบสวนที่มาขอไปประกอบเป็นหลักฐานการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงถูปล่อยออกไปแล้ว พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ปานดำ ผกก.สส.ภจว.พัทลุง มาขอตนก็ให้ไปด้วย เพราะประชาชนได้รับรู้กันทั่วไปแล้วจากคลิปเสียงที่ปล่อยกันออกมา ส่วนตัวไม่เคยคิดที่จะทำลายใครอยู่แล้ว
ทางด้านนายพา ผอมขำ เลขาชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง เผยว่า จากการประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธฺการในสภาผู้แทนราษฏร ก็ทราบว่าในวันที่ 29 ก.ย.นี้ มีการประชุมกรรมาธิการ ทางชมรมได้เตรียมส่งตัวแทนจากจังหวัดพัทลุง ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เพื่อที่จะนำหนังสือไปยื่นต่อกรรมาธิการทั้ง 3 คณะประกอบด้วยกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมาธิการการปกครองและกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ลงมาแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย
Discussion about this post