ทีมกู้ภัยยุติภารกิจค้นหาเรือล่มวันที่ 2 เบื้องต้นยังไม่พบสามีภรรยาผู้สูญหาย

บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเย็น ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 30 กันยายน 2564 ทีมค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำ ชุดประดาน้ำสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้ดำลงไปใต้น้ำเพื่อไปผูกเชือกเข้ากับตัวเรือโดยการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งมีการวางแผนเบื้องต้นจะต้องผูกเชือกทั้งหมด 5 เส้น จึงจะสามารถบังคับเรือแล้วลากเข้าไปยังจุดที่สามารถลงไปค้นหาผู้สูญหายได้ แต่เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวทำให้ต้องเปลี่ยนแผนเป็นการผูกเชือกที่เรือเหลือ 2 เส้น ขณะชุดประดาน้ำกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น หนึ่งในทีมชุดประดาน้ำได้เกิดความเหนื่อยล้าและหมดแรงเป็นลมทำให้ต้องนำเรือเร็วไปรับนักประดาน้ำที่อยู่บนเรือลากจูงเพื่อเข้าฝั่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น โชคดีไม่เป็นอะไรมาก ถัดมาได้เกิดเหตุอีกครั้งเมื่อ ทีมชุดประดาน้ำของ หน่วยกู้ภัยอยุธยาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ลงไปดำผูกเชือกอยู่ใต้น้ำนั้นได้เกิดถังออกซิเจนหมดจึงได้ ดีดตัวขึ้นมาผิวน้ำแต่เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวจึงพัดพาร่างของเจ้าหน้าที่ลอยคออยู่กลางแม่น้ำ แล้วร้องตะโกนให้คนที่อยู่บนฝั่งช่วยนำเรือมารับ ได้ทัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ลอยคออยู่กลางแม่น้ำห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร เบื้องต้นไม่ได้รับอันตราย

ต่อมามีรายงานข่าวแจ้งว่าพบศพเป็นหญิงลอยอยู่กลางแม่น้ำหน้าวัดโบสถ์ เขตพื้นที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 15 กิโลเมตร จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แต่เมื่อถึงได้รับการยืนยันว่ายังไม่พบ แต่ถ้าเจอจริงอาจศพอาจจะลอยไปกับกระแสน้ำที่ไหลแรงไปถึง จังหวัดปทุมธานี ก็เป็นได้

จนเมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ 2 ชุด สามารถใช้เชือกผูกได้สำเร็จทั้ง 2 เส้นจึงได้มีการตัดสินใจนำเรือลากจูง 2 ลำ เพื่อพยามยามให้ออกจากจุดที่กระแสน้ำไหลแรง และจุดที่เป็นน้ำวน ซึ่งการพยามยามนำเรือ 2 ลำเร่งเครื่องลากจูงเรือที่จมอยู่สามารถเคลื่อนตัวออกมาได้เล็กน้อย จนเวลา 21.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจนำเรือมาเพิ่มขึ้น อีก 2 ลำเป็น 4 ลำ เพื่อที่จะเพิ่มแรงลากเรือที่จมอยู่ใต้น้ำ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากละกษณะของเรือที่จมตะแคงหัวเรือหันหน้าเข้าหาวัด ทำให้เชือก เส้นหนึ่งขาด เจ้าหน้าที่จึงมีการวางแผนให้ต้องทำการยุติการกู้เรือที่จมอยู่ใต้น้ำในค่ำคืนนี้เป็นวันที่ 2แล้ว

ด้าน นาย ชัชชัย กิตติไชย ประธานคณะกรรมการสมาคมอยุธยารวมใจ เผยว่า จากการปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้ในการผูกเชือกเรือ ทั้ง 2 เส้นแล้วใช้เรือลากจูงถึง 4 ลำจนทำให้เชือกที่ผูกเรือที่จมนั้นขาดไป 1 เส้นจึงต้องยุติ การกู้เรือในคืนนี้ และวันพรุ่งนี้ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการ คือการผูกเชือกเพิ่มอีก 2 เส้นเป็น 4 เส้นพร้อมทั้ง เพิ่มเรือลากจูงเป็น 4 ลำ เพื่อให้การปฏิบัติงานในครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเรื่องกระแสน้ำที่เชี่ยว
ซึ่งตลอดทั้งวันในการกู้เรือขึ้นมามี นาย ภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดี กรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย เป็นผู้สั่งการดูแลด้วยตนเองบนเรือลากจูงจนจบภารกิจในคร้งนี้