คดีรังนกออกหมายจับ6รายจับแล้ว4รายเหลืออีก2ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 7 ต.ค.นี้ ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.. พล.ต.ท.นันทเดซ ย้อยนวล ผบซ.ภ.๔, พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.๔., พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ตามที่ได้มีการร้องเรียนเผยแพร่ข้อมูลกรณี บริษัท สยามเนสท์ ๒๐๒๒ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานรังนกอีแอ่นบริเวณ หมู่เกาะสี่เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ที่ได้รับสัมปทานล่าสุด ร้องเรียนว่าหลังจากเข้ารับมอบพื้นที่สัมปทานเก็บรังนก เมื่อต้นเดือน กันยายน ๒๕๖๔ มีการลักลอบเข้าไปเก็บรังนกบริเวณดังกล่าว ทำให้ลูกนกตายจำนวนมากสร้างความเสียหายต่อบริษัทผู้รับสัมปทานมูลค่าหลายพันล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จากการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มคนร้ายลักลอบเข้าไปเก็บรังนกในพื้นที่สัมปทานหมู่เกาะสี่เกาะห้า ระหว่าง ๑๔ มิ.ย. – ๙ ก.ย.๖๔ จริงตามข้อร้องเรียนจึงได้สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ลักลอบเข้าไปเก็บรังนก จนมีพยานหลักเนินคดีผู้กระทำความผิด โดยขออนุมัติศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว จำนวน 6 ราย

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร แถลงข่าวว่า ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับจำนวน 6 รายนั้น ได้แบ่งเป็นผู้ลักลอบเข้าไปเก็บรังนก จำนวน ๔ ราย ความผิดฐาน “ร่วมกันเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ, กันเข้าไปกระทำการใดๆ บนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่มีรังนกอยู่ตามธรรมชาติ อันเป็นหรืออาจเป็นอีแอ่น ไข่ของนกอีแอ่น หรือรังนก หรืออาจเป็นเหตุให้นกอีแอ่นละที่อยู่อาศัยไปจากเกาะหรือที่สาธารณสมบัติแผ่นดินตังกล่าว (ตาม พ.ร.บ.อากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง , ๒๕ , ๒๘) , ร่วมกัน เก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่าคุ้มครอง ,สำสัตว์ป่า หรือเก็บ หรือทำอันตรายแก่รังของสัตว์ป่านั้น ในพื้นที่ที่รัฐมนตรีประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๑๔ วรรคสอง , ๖๗ (๑)คือ นายสมพงศ์ พูลแก้ว หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๓๔๑/๖๔ ลง ๖ ต.ค.๖๔ นายวีระ ล่ำไล่ หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๓๔๒/๖๔ ลง ๖ ต.ค.๖๔ นายประชนภัย ล่ำไล่ ที่อยู่หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๓๔๗/๖๔ ลง ๖ ต.ค.๖๔ และ นายอรุณ (อดีต อส.รุณ) ธรรมศรีหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๓๓๙/๖๔ ลง ๖ ต.ค.๖๔ ในจำนวน 4 รายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้วจำนวน 2 ราย คือนายอรุณ (อดีต อส.รุณ) ธรรมศรี และนายวีระ ล่ำไล่ ซึ่งทั้ง 2 ราย เป็นคนพื้นที่อำเภอปากพะยูน

ขณะเดียวกันได้จับกุมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ( อส ) ชุดปฏิบัติการคุ้มครองหมู่เกาะรังนกอีแอ่น จำนวน ๒ รายในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ (ตาม ป.อาญา มาตรา ๑๔๙ และ ๑๕๗ ) คือนายนุกูล ย้อยแสง หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๒๓๔๐/๖๔ ลง ๖ ต.ค.๒๔ และนายสวัสดิ์ เพิ่มเดช หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ ๓าส๗/๒๔ ลง ๖ ต

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร กล่าวอีกว่าหลังจากนี้จะทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิด ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเชื่อมโยงถึงใคร กลุ่มใดบ้านนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่เรื่องของคลิปเสียงนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุอสืยสวนสอบสวนกำลังพิจารณ์ข้อกฏหมายที่มาของคลิปเสียงก่อนเพื่อความชอบของกฏหมาย แต่เบี้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าเป็นการสนทนากันเรื่องใด และเป็นใครคุยกับใคร หากหลักฐานะรวบรวมเพียงพอก็จะเสนอออกหมายจับต่อไป สำหรับผู้ตองหาที่เหลือทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งรัดติดตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วและจะสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นต่อไป
​

ส่วนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.)พัทลุง นายเกลื่อม พูลสง ประธานชมรมผู้พิทักษ์ผลประโยชน์พัทลุง พร้อมนายเด่น เทพกล่ำ เลขา ชมรม ได้ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ผ่านทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการกิจการรังนก เพื่อให้ประธานกรรมการ สอบสวนบริษัทสัมปทานรังนกอีแอ่น ตามที่มีสื่อบางสำนักมีการเสนอข่าวระบุว่าผู้สัมปทานรังนกแอบเก็บรังนกก่อนหมดสัญญาสัมปทาน ทั้งที่บริษัทได้มีหนังสือแจ้งกับกรรมการว่าจะไม่ขอเก็บรังนกงวนที่ 3 เพื่ออนุรักษ์เพิ่มจำนวนประชากรรังนก แต่ถ้าหากมีการแอบเก็บรังนก โดยที่ไม่มีกรรมการควบคุม บริษัทผู้สัมปทานก็จะผิดเงื่อนไขสัญญา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของจังหวัดพัทลุง ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานจะต้องสอบสวนและเปิดเผยให้ประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงได้รับรู้ภายนใน 15 วัน