เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ริมถนนเศรษฐกิจ 1 ห่างจากปากทางเข้าวัดนางสาวไปประมาณ 200 เมตร จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.ประวิทย์ อาสานอก สารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ไปตรวจสอบ พร้อมกับประสานรถน้ำดับเพลิงของเทศบาลตำบลท่าไม้ และเทศบาลตำบลสวนหลวงรวม 5 คัน เข้าระงับเหตุ ซึ่งบริเวณที่เกิดไฟไหม้ มีลักษณะเป็นอาคารทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ตั้งอยู่ติดกันนับ 10 คูหา โดยห้องที่เกิดเหตุตั้งอยู่เลขที่ 81/ 10 หมู่ที่ 5 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ชื่อร้านมอเตอร์เซอร์วิส รับงานมอเตอร์ทุกชนิด งานกลึง มิลลิ่ง สเปร์เพลา และอัดเพลาทั่วไป ส่วนชั้นบนเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวที่อยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก กับ สุนัข 2 ตัว และแมวอีก 3 ตัว โดยไฟได้ลุกไหม้จากด้านล่าง เจ้าหน้าที่ต้องงัดประตูเข้าไป เพื่อเร่งฉีดสกัดเนื่องจากไฟได้โหมอย่างรุนแรง แล้วกำลังจะลุกลามขึ้นชั้นบน ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โชคดีที่ไม่ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงที่เปิดเป็นร้านในลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น ขายอะไหล่ยนต์ แบตเตอร์รี่ รับซ่อมรถ และอื่นๆ เป็นต้น
จากการสอบถามนายภานุรุจ เนียมชาวนา อายุ 54 ปี เจ้าของร้านมอเตอร์เซอร์วิส เล่าว่า ตอนเกิดเหตุครอบครัวของตนเอง 3 คนพ่อแม่ลูก นอนอยู่ชั้นที่ 2 โดยได้ยินเสียงคล้ายกับมีวัตถุบางอย่างเกิดการระเบิดขึ้น 2 ครั้ง จึงลงมาดูปรากฏว่าพบไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ด้านล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ทำมาหากิน มีทั้งเครื่องจักร เครื่องมือขนาดเล็กใหญ่ และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก รวมถึงรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ทั้งนี้พวกตนจึงได้รีบหนีตายกันออกมาด้วยการปีนลงมาจากชั้น 2 ทางหน้าต่างด้านหลังห้องเพราะไม่สามารถวิ่งฝ่ากองไฟออกมาได้ ซึ่งก็ยังนับเป็นโชคดีที่หนีออกมาได้ทัน แต่ไม่สามารถนำสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ออกมาด้วยได้ รวมถึงทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ก็คว้ามาได้เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น
เบื้องต้นหลังจากเพลิงสงบลงพบความเสียหายเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นล่างทั้งหมด ข้าวของอุปกรณ์ประกอบอาชีพ กับรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ถูกไฟไหม้เสียหาย นอกจากนี้ที่ชั้นบนยังถูกเปลวไฟที่ลุกลามขึ้นไปได้รับความเสียหายบางส่วน อีกทั้งยังพบสุนัข 2 ตัว ถูกไฟคลอกตายบนชั้น2 ส่วนแมวอีก 3 ตัว พบตาย1ตัว เป็นลูกแมววัย3 เดือน และหนีรอดไปได้2 ตัว ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป.
Discussion about this post