
จากรณีที่มีการเผยแพร่ข่าว 10 ชีวิต นอนกินในเพิง ที่บ้านน้ำเย็น หมู่ที่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา โดยเช่าที่ดินเดือนละ 500 บาท ใช้ห้องน้ำของมัสยิด ซึ่งใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำอย่างนี้เป็นประจำ ล่าสุด วันที่ 9 พ.ย.64นายภิรมณ์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นางพิมพ์พนิต เอียดแก้ว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา และ นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับ น.ส.สะอีด๊ะ สาตอและ อายุ 33 ปี และนายยาแม มะแซ อายุ 41 ปี สามี และลูก 8 คน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมดังกล่าว
นายภิรมณ์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ข้าราชการทั้งหมดในจังหวัดยะลา จะทนดูพี่น้องที่ลำบากไม่ได้ต้องร่วมกันเข้ามาช่วย เป็นหน้าที่ของข้าราชการคือข้าในแผ่นดิน พร้อมที่จะทำให้พี่น้องทุกข์น้อยที่สุดจะเป็นใครก็ตามต้องมีปัจจัยทั้ง 4
“เคสนางสะอีด๊ะ สะตอและ อายุ 33 ปี นายยาแม มะแซ อายุ 41 ปี สามี และครอบครัวทั้ง 10 คน ได้นำความห่วงใยของในหลวงรัชกาลที่ 10 มอบถุงพระราชทาน เพื่อขับเคลื่อนให้ทุกคนทุกข์น้อยลงมีสุขมากขึ้น โดยมาในรูปธรรมการช่วยเหลือที่อยู่อาศัย โดยมีพม.ยะลา และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่ตรวจสอบว่า อันไหนที่เข้าหลักเกณที่ให้การช่วยเหลือได้ ทราบว่าที่อยู่ปัจจุบันของครอบครัวสะอีด๊ะ เมื่อก่อนมาเป็นที่ค้าขาย พักหลังก็เอาลูกมานอนกินด้วย ทำให้เป็นที่แออัดและอาจเกิดอันตรายกับเด็กๆได้ในเวลาฝนตก ก็เลยช่วยเหลือในเรื่องของการต่อเติมและซ่อมบ้าน ที่แม่ของสะอีด๊ะอยู่ ที่บ้านปอเยาะ หมู่ที่ 4 ตำบลลำใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อความปลอดภัยกับครอบครัว จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาได้ดูแลแม่อีกด้วย”
ต่อมา ฝ่ายปกครองในพื้นที่ นำโดยนายธวัชชัย สาธุธรรม ปลัดอำเภอเมืองยะลา ผู้รับผิดตำบลลำใหม่ พร้อมด้วยสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมบ้านแม่ของนางสะอีด๊ะ สะตอและ ที่ บ้านปอเยาะ ตั้งอยู่หมู่ 4 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งนางสะอีด๊ะ เคยอยู่มาก่อนที่จะย้ายมาที่กระท่อมเพื่อการค้าขายที่บ้านน้ำเย็น เทศบาลตำลบลำใหม่ โดยบ้านแม่ของสะอีด๊ะ เป็นบ้านไม้เก่าๆอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่ครอบครัวนี้มีอยู่ บนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ แม่ได้แบ่งให้ลูกๆกันแล้ว 4 คน โดยร่วมกันสร้างกระท่อมในบริเวณอีก 2 หลัง

ทางด้านนางสอเดาะ คาเดร์ อายุ 70 ปี แม่ นางสะอีด๊ะ กล่าวว่า สะอีด๊ะ มีลูกหลายคน โดยปกติได้ความช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นประจำ แต่ถามว่าพอไม่ ก็ไม่พออยู่แล้ว ดีที่ไม่ได้ยากไร้ช่วยตัวเองไม่ได้ เราแค่ยากจนไม่พอกิน ดีใจที่ทางภาครัฐมาซ่อมบ้านให้ จะได้ให้หลานอยู่อย่างปลอดภัยและได้อยู่ร่วมกันช่วยดูแลแม่ยามที่เจ็บไข้ได้ป่วย”
ด้านนางพิมพ์พนิด เอียดแก้ว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา กล่าวหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบว่า ในส่วนของการช่วยเหลือของ พมจ.ต้องเป็นผู้สูงอายุหรือคนพิการที่เข้าหลักเกณฑ์ช่วยเหลือในเรื่องของสร้างบ้านได้ ในวงเงินไม่เกิน 40,000 บาท ในส่วนของนางสะอีด๊ะ จะไม่เข้าในหลักเกณฑ์นี้ ซึ่งจะอยู่ในหลักเกณฑ์ผู้ยากไร้ ที่ต้องผ่านสภาสันติสุขและอำเภอพิจารณาต่อไป
“หลังจากไปหาแม่ของสะอีด๊ะ ที่บ้านปอเยาะ ม.4 ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา แม่ก็ยินดีจะรับการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านจากพมจ.ยะลา ในส่วนที่แบ่งให้กับนางสะอีด๊ะ โดยใช้สิทธ์ของแม่ ใช้หลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนนี้ทางพมจ.จะรีบดำเนินการต่อไป”
น.ส.สะอีด๊ะ สาตอเละ กล่าวว่า หลังจากที่ สื่อมาทำสุนัตให้ลูก และได้เสนอข่าวไปนั้น ล่าสุด ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา กาชาดจังหวัด พมจ. อำเภอ ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ก็รู้สึกดีใจ นอกจากนี้ ยังได้รับการช่วยเหลือ จากน้ำใจคนไทย อีก จำนวน 257,000 บาท ดีใจมากไม่รู้จะพูดยังๆไง มากกว่าคำขอบคุณ เงินในจำนวนนี้ได้ให้ผู้นำในพื้นที่เป็นผู้ดูแล และขอสัญญาว่า จะนำเงินทั้งหมดนี้ไปใช้ประโยชน์ ในการสร้างบ้าน เพื่อให้สามารถมีบ้านที่มั่นคงและปลอดภัยตามที่ตั้งใจไว้ ตอนนี้ถือว่า ครอบครัวได้ พรมาทั้ง 2 ข้อ ตามที่หวังแล้ว ขอบคุณคนไทยทุกคน เงิน จำนวน เท่านี้ถือว่าเพียงพอ ในการสร้างบ้านแล้ว ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง โดยเฉพาะสื่อที่ร่วมกันเสนอข่าว เพื่อให้สังคมรับทราบปัญหาของครอบครัว.
Discussion about this post