
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นายสมหมาย วงศ์มะแสน อายุ 58 ปี ทนายความ ชาว อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร แจ้งผู้สื่อข่าวว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู นับสิบรายกำลัง ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากหมูที่เลี้ยงไว้ได้ป่วยและตายลงกว่า 100 ตัว ที่หมู่บ้านนิรมัย ม.8 ต.กุสุมาลย์ จึงแจ้งให้ นายวีระสันติ ประทุมพล ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร ทราบ และสั่งการให้ นายสัตวแพทย์วิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสุขภาพสัตว์ สนง.ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย นายเจริญ จิระชีวะนันท์ ปศุสัตว์อำเภอกุสุมาลย์นำ จนท.ออกไปสอบสวนโรค ที่บ้านของ นายสุดี วงศ์มะแสน อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 306 ม.12 ต.กุสุมาลย์ เมื่อไปถึงพบว่ามีเกษตรมารอพบ รวม 8 ราย แจ้งว่าหมูที่พวกตนเลี้ยงไว้กว่า 100 ตัวได้ตายลงเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2564 โดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนตายจะมีเลือดออกตามรูขุมขน เมื่อป่วยได้ 4-5 วันก็จะตายและที่ผิวออกสีม่วงคล้ำ พวกตนจึงได้นำไปกลบฝัง บางส่วนก็จุดไฟเผา ทำให้คอกหมูว่างเปล่า ซึ่งหมูที่ตายไปส่วนหนึ่งเป็นพ่อแม่พันธุ์ น้ำหนักประมาณ 200 กก.

นายสัตวแพทย์วิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร กล่าวทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรว่า ในเมื่อไม่มีหมูให้ตรวจแล้วเพราะกลบฝังไปแล้ว การช่วยเหลือก็ทำได้ลำบาก เพราะการจะช่วยได้นั้นจะต้องมีผลทางวิทยาศาสตร์ประกอบ ซึ่งก็จะหาทางช่วยแต่ไม่รับปาก เบื้องต้นได้ให้เกษตรกรที่เลี้ยงหมูทั้งหมดพักคอก คือหยุดเลี้ยงหมูไปอีก 4-6 เดือน และจะต้องฉีดพ่นฆ่าเชื้อ โดยทาง จนท.ปศุสัตว์ จะเข้ามาดำเนินการให้ ซึ่งโรคที่หมูเป็นคือโรค prs ซึ่งไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ถ้าแจ้งเร็วกว่านี้ก็อาจจะช่วยได้ ที่ผ่านมามี จนท.ปศุสะตว์ เข้าดูแลแต่ก็เป็นปลายเหตุแล้ว สำหรับการติดต่อนั้น ไม่สามารถติดมาในคนได้ การนำพาโรคนอกจากพ่อค้าจะสัมผัสหมูสู่หมูแล้ว สภาพอากาศก็มีส่วน นกก็เป็นพาหะได้ และเชื้อนี้จะฝังอยู่ในดินและน้ำ ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จะเข้ามาช่วยเหลือในการกำจัดโรค ขณะที่นางเที่ยง วงศ์มะแสน อายุ 63 ปี หนึ่งในผู้เลี้ยงหมูบอกว่า ตนถึงกับร้องไห้เพราะเลี้ยงหมู 32 ตัว หวังว่าเมื่อขายหมูจะนำไปใช้หนี้ ธกส. ทำนาก็ขายข้าวไม่ได้ราคา เพราะราคาถูกยิ่งกว่าแกลบ นางเที่ยง กล่าว
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post