
วันที่ 1 ธันวาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อกราบนมัสการพระราชวชิรธรรมาจารย์ (หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม) เจ้าอาวาสวัดเกสรศีลคุณ และพระราชภาวนาวชิรากร (หลวงพ่ออินทร์ถวาย) เจ้าอาวาสวัดอุดมมงคลวนาราม (วัดป่านาคำน้อย) อ.นายูง จ.อุดรธานี และติดตามความก้าวหน้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิธาตุและเครื่องอัฐบริขารของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนที่เดินทางมามอบดอกไม้ และถือป้ายให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีกว่า 200 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมกับบอกว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนอุดรสู้ๆและอย่าทิ้งนายกไว้ข้างหลังด้วยนะจ๊ะ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล โดยมีนายฐิติวัชร์ สุชนวนิช ไวยาวัจกรของวัดเกษรศีลคุณ อธิบายความคืบหน้าว่า พิพิธภัณฑ์ฯได้ก่อสร้างบนพื้นที่ดินของวัดจำนวน 181 ไร่ ตัวอาคารพระเจดีย์ พระวิหารและพิพิธภัณฑ์ ใช้พื้นที่ จำนวน 9 ไร่ ปรับภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้และสระน้ำ จำนวน 38 ไร่ รูปแบบทรวดทรงอาคารเป็นศิลปะล้านช้าง ประยุกต์เข้ากับศิลปกรรมยุครัตนโกสินทร์ที่ได้ริเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายรัชกาลที่ 9 และแล้วเสร็จในต้นรัชกาลที่ 10 แห่ง พระราชจักรีวงศ์
ความโดดเด่นของพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ด้วยพระราชศรัทธาที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มีต่อองค์พ่อแม่ครูอาจารย์และปฏิปทาของพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย ที่มุ่งสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ให้ดีที่สุด ทรงคุณค่าที่สุด ด้วยวัสดุที่ดีที่สุด จึงได้เชิญชวนคณะศิษยานุศิษย์เปลี่ยนแปลงวัสดุ ดำเนินการเพิ่มเติมที่สำคัญๆ อาทิ เปลี่ยนวัสดุจัดทำยอดฉัตรและฐานฉัตร ชั้นที่ 1 เป็นทองคำค่าความบริสุทธิ์มากกว่าร้อยละ 96.5 (จากเดิมที่เป็นทองเหลืองและเคลือบทอง) ยอดฉัตรความสูง 113 เซนติเมตร น้ำหนักทอง 84.6 กิโลกรัม และฐานฉัตรชั้นที่ 1 น้ำหนักทองคำ 95 กิโลกรัม
ภายในอาคารพระเจดีย์เดิมวัสดุ เป็นปูนปั้นก็เปลี่ยนเป็นใช้หินอ่อนไวท์คาราร่าจากอิตาลี กรุด้านในและลานประทักษิณความสูง 7 เมตร เดิมปูด้วยหินแกรนิต เปลี่ยนเป็นหินอ่อนไวท์คาราร่า เช่นกัน ยอดพระเจดีย์ที่ระดับความสูง 33 เมตร มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุและอัฐิธาตุองค์หลวงตา และพระทองคำ 99.99% น้ำหนัก 52 กิโลกรัม ที่คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่อุ่นหล้า วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร สร้างถวาย พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปพิงค์โกลด์ และพระพุทธรูปหินจุยเจีย ผินพระพักตร์ไปยังจตุรทิศ พร้อมเครื่องสูงต่างๆ พระพุทธรูป พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปนาค พระพุทธรูปทองคำหินจุยเจีย
พระวิหาร ขนาดกว้าง 8.75 เมตร ยาว 88.33 เมตร ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาปางมารวิชัย ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ เป็นประธานการก่อสร้างและพระราชทานพระนามว่า “พระพุทธวิสุทธิมงคลศาสดา เจ้าฟ้าจุฬาภรณนฤมิตร” ซึ่งออกแบบและปั้นโดยศาสตราจารย์วิชัย สิทธิรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาประติมากรรม เป็นพระพุทธรูปเนื้อนวโลหะ

ต่อมา ที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ ฮอลล์ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย พร้อมด้วย ดร.ภาคภูมิ ปุผมาศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ,พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนภาคอีสาน ,นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายเกษตรยั่งยืนทางเลือกใหม่ ,นายอดิศร วัฒนบุตร ผู้ประสานงานเครือข่าย “กลุ่มเรารักประเทศไทย ภาคอีสาน” ,ผู้แทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 20 กลุ่มจังหวัดภาคอีสาน และสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน ร่วมให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดอุดรธานี โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับ และรายงานสรุปทิศทางการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี
นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนพี่น้องกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่เคยทอดทิ้งเกษตรกร คอยห่วงใยช่วยเหลือให้การสนับสนุนแก่พี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด หวังให้พี่น้องเกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน พลิกฟื้นทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรม เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยอนุมัติงบประมาณ 407 ล้านบาท ในการยกระดับทักษะอาชีพภาคเกษตรกรรม ดึงคนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 กลับสู่ถิ่นฐาน ใน 6 ทักษะอาชีพ ได้แก่ ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ ด้าน OTOP ด้านเห็ดเศรษฐกิจ ด้านหมอดิน และด้านสมุนไพร เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ของเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น 2,574 กลุ่ม เพื่อรองรับแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นทักษะอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้วยศาสตร์พระราชาเพื่อเป็น แนวทางในการแก้ไขเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงวิกฤตของโควิด-19 เพื่อเป็นทางรอดและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชน ในการสร้างต้นแบบศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพ ในภาคเกษตรกรรม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของท้องถิ่นและชุมชน
นายศักดิ์ชาย พรหมโท กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรชาวไทยรู้สึกอุ่นใจ ดีใจ และภูมิใจที่มีผู้นำประเทศที่เป็นชายชาติทหาร มีความจงรักภักดี ปกป้องสถาบัน มีความซื่อสัตย์สุจริต และคงจะหาผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถเช่นท่านนี้คงไม่มีแล้ว พวกเราจึงขอเป็นกำลังใจให้ท่านและขอให้ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ทอดทิ้งประชาชน พวกเราจะขอให้การสนับสนุนท่านนายกรัฐมนตรีคนนี้ตลอดไป “เพราะท่านคือดวงใจของประชาชนชาวไทย”.
Discussion about this post