ผู้ว่าฯยะลา สั่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดนที่อำเภอเบตง สกัดโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่พบในมาเลเซีย

จากกรณีที่ทางการมาเลเซีย ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ในนักศึกษาต่างชาติที่ผ่านการกักตัว หลังเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นักเรียนต่างชาติผู้นี้เป็นหญิงวัย 19 ปี ซึ่งติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการและได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว มีผลการทดสอบโควิด-19 เป็นบวก หลังเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซีย โดยผ่านทางประเทศสิงคโปร์ และได้รับการกักตัวเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเคสแรกที่พบในประเทศมาเลเซีย

ล่าสุดในส่วนของจังหวัดยะลา ซึ่งมีเขตรอยต่อกับประเทศมาเลเซีย ที่อำเภอเบตง นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในส่วนของจังหวัดยะลา ส่วนที่เป็นรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งช่องทางธรรมชาติ และช่องทางปกติ ก็จะอยู่ที่อำเภอเบตง ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่าที่ด่านทั้งฝั่งเบตง และฝั่งมาเลเซียก็ยังไม่เปิด ส่วนที่กังวลว่าจะมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาตินั้น ทางจังหวัดไม่ห่วง เพราะมีกองกำลังป้องกันชายแดนที่คอยดูแล และได้มีการสั่งการให้เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบให้มากยิ่งขึ้น แต่ที่กังวลใจก็คือขณะนี้เปิดให้รถขนส่งสินค้าวิ่งผ่านเข้ามาได้ แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบคุมเข้มมากขึ้นกว่าเดิม ใช้มาตรการตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่เข้ามา ตามมาตรการหลักของกระทรวงสธารณสุข เว้นระยะห่าง งดการสัมผัส และที่สำคัญคือการตรวจ ATK

“โอไมครอน ถามว่ากังวลไหม เราอยู่ชายแดนต้องกังวล แต่ได้วางมาตรการป้องกันช่องทางต่างๆ โชคดีที่ช่องทางธรรมชาติมีน้อยมาก ต่างจากนราธิวาส ที่มีเยอะกว่า แต่ก็ไม่ประมาท คนที่จะผ่านเข้ามาในพื้นที่ก็จะรู้ทันที เนื่องจากพี่น้องประชาชนชาวบ้านจะเป็นหูเป็นตาให้ แต่อย่างไรก็ตาม กองกำลังต่างๆ ทุกฝ่าย ก็จะทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องได้อุ่นใจ ว่ามาตรการของจังหวัดยะลามีความเข้มแข็ง” ผวจ.ยะลา กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับรถขนส่งสินค้าที่ผ่านเข้ามาทางด่านเบตง ก็จะมีการจำกัดพื้นที่ ที่จะมีการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจพืช ตรวจสัตว์ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ซึ่งรถขนส่งจะเข้ามาอยู่ในพื้นทีที่จำกัดเอาไว้ เพื่อขนถ่ายสินค้า และเมื่อเข้ามาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ และคนที่เข้ามาจะต้องฉีดวัคซีนไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวมาเลยเซีย ที่ขับรถเข้ามา รวมทั้งต้องผ่านการตรวจ ATK 72 ชั่วโมง และต้องมีใบรับรอง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่ยะลา ล่าสุดยอดการฉีดวัคซีนของคนยะลา ถือว่ามากที่สุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงเร่งฉีดให้พี่น้องประชาชนกันอย่างต่อเนื่องให้มากที่สุดก่อนวันปีใหม่ ที่อาจจะมีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้คลายความ เครียด ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะสามารถจัดได้หรือไม่.