ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย
วันที่ 21 ธ.ค.64 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นพ.วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณะสุขจังหวัดเชียงราย นพ.ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นพ.อิทธิพงษ์ ยอดประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในจังหวัดเชียงราย
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวชาย ชาวอังกฤษ อายุ 36 ปี ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งต้องสงสัยเข้าข่ายสายพันธุ์ โอไมครอน ในจังหวัดเชียงราย โดยพบขณะพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยในวันที่พบว่าติดเชื้อมีอาการไข้สูง 38 องศา และเจ็บคอ ไข้ลดลงเป็นปกติแล้ว โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวเดินทางากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 โดยทำการ PR-PCR ก่อนที่จะเดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์ จากนั้นได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ แล้วเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย ทำการ PR-PCR เป็นครั้งที่ 2 และกักตัว 1 วัน โดยมีผลเป็นลบ จากนั้นได้เดินทางพักในโรงเแรมในส่วนกลางตั้่งแต่วันที่ 13-15 ธ.ค. จากนั้นได้เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน ไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเพื่อนร่วมเดินทางชาวอเมริกาและคนขับรถจำนวน 4 คน รวม 5 คน โดยได้เดินทางจากจังหวัดเชียงราย โดยได้แวะพักปั๊มน้ำมันที่ แม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า จากนั้นได้แวะเที่ยวที่วัดร่องขุ่น แล้วเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรมใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ในวันที่เข้าพักได้ลงไปทานอาหารที่ร้านอาหารใกล้กับโรงแรมที่พัก จากนั้นได้กลับเข้าห้องพักแล้วรู็สึกมีไข้และเจ็บคอเล็กน้อย จึงได้ลงไปซื้อชุดตรวจ ATK จากร้านขายยาใกล้โรงแรมมาตรวจโดยพบว่าผลเป็นบวก จึงได้พักอยู่ในห้องพัก และได้ตรวจ ATK ซ้ำในช่วงเช้าก็พบว่าผลเป็นบวก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงราย มารับตัว จากนั้นได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเกษมราษฎรศรีบุรินทร์เชียงราย ในวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากทางจังหวัดทราบเรื่องจึงได้ส่งทีมตรวจสอบโรคเข้าไปตรวจสอบโรค โดยพบกลุ่มเสี่ยวสูง 4 รายคือ เพื่อที่เดินทางร่วมกันในรถมาจากเชียงใหม่ และคนขับรถ รวมกัน 4 คน โดยเบื้องต้นทั้ง 4 คนผลออกมาเป็นลบ โดยในส่วนของชาวอเมริกาได้ขอส่งตัวไปรักษาในสถานกักกันโรคในสถานทูตอเมริกากรุงเทพฯ โดยได้มีการทำเรื่องส่งตัวไปแล้ว ส่วนคนขับรถก็ได้เข้าสู่การกักตัวที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว
ในส่วนของพื้นที่ข้างเคียงที่อยู่ในระดับเสี่ยงต่ำเป็น พนังงานโรงแรม 2 ราย ร้านอาหาร 1 ราย และร้านขายยา 1 ราย ที่ผู้ป่วยได้เข้าไปสัมผัส ซึ่งในระหว่างที่ผู้ป่วยไปใกล้ชิดทั้งหมดได้สวมหน้ากากอนามัยและอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสั้น โดยผลตรวจ PR-PCR ทุกคนเป็นลบ อย่างไรก็ตามก็ได้มีการกักตัวทั้งหมดเอาไว้เพื่อดูอาการ สำหรับผู้ป่วยช่วาอังกฤษ หลังจากที่ได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาแล้ว ได้ส่งตัวอย่างไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และพบว่ามีเชื้อเข้าข่ายสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังคงต้องตรวจสอบอีกครั้ง โดยผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั่วประเทศ 63 ราย
นพ.วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณะสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การพบผู้ป่วยในครั้งนี้ทางจังหวัดได้มีมาตราการป้องกันเป็นอย่างดีเพราะได้มีการเตียมการรองรับไว้แล้วทำให้รับผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดเข้าสู่กระบวนการอย่างรวดเร็วทำให้การแพร่ระบาดอยู่นวงแคบ และได้นำตัวผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษาและกักตัวแล้ว โดยจังหวัดเชียงรายได้มีการตราการป้องกันใน 11 อำเภอ ที่จัดเป็นบลูโซน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการได้รับทราบถึงมาตราการและการป้องกันแล้ว
นพ.อิทธิพงษ์ ยอดประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้มีความพร้อมในการรับมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์เดลต้า และสายพันธุ์อื่นๆแล้ว โดยในส่วนของสายพันธุ์โอไมครอน นั้นทางโรงพยาบาลได้มีการเตรียมพร้อมทั้งห้องพัก อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์เอาไว้แล้ว ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้มีความตื่นเต้นในการรักษาแต่อย่างใด ในส่วนอาการของผู้ป่วย พบว่าในวันแรก ผูํป่วยมีไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียส และมีอาการเจ็บคอ ปัจจุบันผู้ป่วยมีอาการปกติไม่มีไข้ และอาการอื่นๆ ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ด้าน นพ.ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลร่วมกับสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงรายได้ทำการสุ่มตรวจในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้วตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อเกิดการพบผู้ป่วยจึงได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ในการควบคุมและนำเข้าสู่การรักษาในที่สุด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสุ่มตรวจประชาชนและนักท่องเที่ยวตามมาตราการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
///////////////////////////////////////////
Discussion about this post