นนทบุรี – นาทีระทึก !! ตำรวจใช้ปืนจ่อจับตัวหนุ่มก่อเหตุโชว์ปืนหน้าโรงเรียนดังย่านปากเกร็ด

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 64 ช่วงเวลาเช้ามืด เกิดเหตุหนุ่มขี่ จยย.ใส่หมวกกันน๊อคชักอาวุธปืนชี้เข้าไปในบริเวณโรงเรียนโพธินิมิตร วิทยาคม ซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แล้วตะโกนด่าใส่กล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียน ก่อนจะเก็บอาวุธปืนเหน็บกลับไปไว้ชายเสื้อด้านหลัง จนนักเรียนสาวสองคนในคลิปต้องวิ่งหนี หลังมีการแชร์คลิปในโลกออนไลน์ โดยมีข้อความว่า” เรียนผู้เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบคลิปนี้ให้หน่อยนะครับพอดีกล้องหน้าโรงเรียนไม่ชัดช่วยกรุณาดูหน้าโรงเรียนให้หน่อยนะครับหากใครมีเบาะแสนายคนนี้”

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเมื่อเวลา 06.22 น. ได้อย่างชัดเจน เป็นคลิปชายหนุ่มคนหนึ่งใส่หมวกกันน็อคสวมแมสยืนถือปืนเดินเลาะตามรั้วโรงเรียนวัดโพธิ์นิมิตวิทยาคมพร้อมทั้งเอาปืนยื่นเข้าไปในรั้วโรงเรียน ชี้ไปชี้มมาโดยมีนักเรียนสาว 2 คน ที่เห็นเหตุการณ์เดินอยู่ด้านข้างๆอกสั่นขวัญแขวนรีบวิ่งหนี จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินส่ายไปส่ายมาแบบนักเลงก่อนจะเก็บอาวุธปืนเหน็บไว้ที่ด้านหลังแล้วตรงมายังที่หน้ากล้องวงจรปิดพูดตะโกนใส่กล้องโหวกเหวกโวยวาย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์แบบหญิงขี่หายออกไปยังหน้าโรงเรียน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความหวาดหวั่นขวัญผวาให้กับนักเรียนและอาจารย์ของโรงเรียนดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ 25 ธันวาคม 64 พพ.ต.อ.พงศ์จักรปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 37/7 หมู่ 3 ซอยวัดหงษ์ทองตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังสืบทราบว่าชายหนุ่มในคลิปที่สวมหมวกกันน็อคถือปืนโวยวายหน้าโรงเรียน พักอาศัย อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวขนาดใหญ่

ระหว่างนั้นเองได้มีนายธวัชชัย หรือ กบทองอบอุ่น อายุ 42 ปี ใส่กางเกงยีนส์ขายาวไม่สวมเสื้อ มีรอยสักเต็มตัวเดินออกมานอกบ้านทำท่าจะทำร้ายผู้สื่อข่าว โดยพูดจาด่าทออยู่สักพัก และเดินหายเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตัดสินใจเข้าไปในบ้านพร้อมชักอาวุธปืน สั่งให้นายกบซึ่งอยู่ในห้องน้ำยกมือขึ้นหัว แล้วนั่งลงกับพื้น ก่อนจะช่วยกันควบคุมตัว นายกบไว้ได้โดยไม่ได้ไม่มีการต่อสู้ขัดขืนเบื้องต้นพบอาวุธปืนพลาสติกเด็กเล่นที่นายธวัชชัย หรือกบ นำไปก่อเหตุ เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา โดยนายกบรับว่าตนเองติดดมทินเนอร์ ส่วนสาเหตุที่ทำลงไป เนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวขึ้นรถสายตรวจพาตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ปากเกร็ด

ขณะที่นางลำไยทองอบอุ่น อายุ 64 ปี มารดาของนายธวัชชัยหรือกบ เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก 2 คนเป็นผู้ชายทั้งคู่ นายกบเป็นคนโต ส่วนน้องคนเล็กก็ถูกจับอยู่ในเรือนจำข้อหายาเสพติดส่วนนายกบพี่ชาย เพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์ ติดคุก 5 ปี แต่ติดจริง 2 ปีกว่า และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 64 แต่ไม่ได้ทำงานการอะไร วันๆเอาแต่ดมทินเนอร์ จนตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วทั้งดุว่าด่าทอ เมื่อเช้า ลูกชายคนนี้ก็เมาทินเนอร์อย่างหนักพังประตูหน้าต่างที่ข้างฝาบ้านที่เป็นไม้จนพังแตกเป็นรูโหว่ ตนเองก็ไม่รู้ว่าลูกชายออกไปก่อเหตุอะไรมาเมื่อ วานมาทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวนี่เอง ปกติลูกชายถ้าไม่ดมทินเนอร์ก็จะเป็นคนเรียบร้อย ไม่พูดไม่จา พอได้สูดทินเนอร์ก็จะเปลี่ยนเป็นคนละคน พูดจาโวยวายทั้งวัน เมื่อวานที่ออกไปก่อเหตุตอนเช้านายกบลูกชายได้ขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินทะเบียน กกฉ- 205 นนทบุรี ซึ่งเป็นของคุณพ่อออกไปข้างนอกไม่คิดว่าจะไปก่อเรื่องที่หน้าโรงเรียนโพธิ์นิมิตรวิทยาคมซึ่งอยู่ซอยถัดไป ตนฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำตัวลูกชายไปบำบัด รักษาเพราะไม่อยากให้เขาติดสารระเหย และออกไปก่อเหตุแบบนี้อีก เบื้องต้นทางผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า จะดำเนินคดีผู้ต้องหา ในข้อหาก่อนในเบื้องต้นคือ “ก่อความวุ่นวายเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่น” ส่วนข้อหาสิ่งเทียมอาวุธปืนก็ยังไม่เข้าข่ายเนื่องจากเป็นปืนพลาสติกเด็กเล่น หากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีอีก คงต้องให้พนักง่นสอบสวนสอบปากคำก่อน จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.