ผบก.ภ.จว.นครพนม เรียกตรวจสำนวนแก๊งวัยรุ่นยกพวกตีกัน สั่งทำประวัติหัวโจกไว้ทุกคน มือมีดฟันชายพิการยังกบดานเงียบ

สืบเนื่องมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 3 คนอยู่บ้านโคกกุงหมู่ 3 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ใช้อาวุธมีดรุมฟันนายจีระวัฒน์ ไพรี หรือบูม อายุ 17 ปี หนุ่มพิการครึ่งซีกจนบาดเจ็บสาหัส โดยน้องบูมกำลังเรียนระดับ ปวช.3 วิทยาลัยเทคโนโลยี ไทย-อินโดจีน นครพนม ด้วยการขายนมเปรี้ยวบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านน้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อเป็นทุนในการศึกษา เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จึงพักอาศัยอยู่กับปู่และย่าที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 8 บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา

เบื้องต้นวันที่ 27 ธันวาคม 2564 นายออฟ(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และนายบาส(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี 2 ใน 3 ผู้ถูกกล่าวหาว่าได้ร่วมทำร้ายน้องบูม โดยมีผู้ปกครองนำตัวเข้าพบกับ ร.ต.ท.(หญิง)มนัสนันท์ บุรีภักดี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม และซัดทอดว่านายกาย(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่กำลังหลบหนีอยู่เป็นคนลงมือใช้มีดฟัน และทำลายทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้นายออฟเล่าว่าเป็นคนคว้าคอเสื้อนายบูมชกไปที่ใบหน้า 2-3 ครั้งเท่านั้น ส่วนนายบาสเป็นคนคุมเชิงไม่ได้ร่วมทำร้ายด้วย แต่อยู่ในเหตุการณ์เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น นอกจากนี้นายลิฟท์ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ยังไม่ปลดประจำการ และเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่น้องบูมพาไปถูกฟัน ก็ได้มาพร้อมกับเมียและแม่เข้าพบพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านโคกกุงที่ถูกกล่าวหาว่าวัยรุ่นในบ้านซุ่มทำร้ายน้องบูมนั้น ให้รายละเอียดที่ตรงกันข้ามกับที่นายลิฟท์อ้าง เช่น บ้านเมียตนเองอยู่หัวหมู่บ้านแต่กลับสั่งให้คนเจ็บขับ จยย.เข้ามากลางชุมชนกับ จยย.ของเพื่อนอีกคันรวมเป็น 2 คันในตอนตีหนึ่ง โดยชาวบ้านเห็นว่า 1 ใน 2 คันมีอาวุธมีดมาด้วย แต่นายลิฟท์อ้างเข้ามาหาซื้อบุหรี่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ว่า ก่อนเกิดเหตุมีการส่งข้อความนัดออกมาตีกัน ระหว่างวัยรุ่นแก๊งบ้านเหล่าคำธาตุกับวัยรุ่นแก๊งบ้านโคกกุงที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันนาน ซึ่งจากคำบอกเล่าของนายออฟอ้างต่อหน้าผู้นำชุมชนว่าแก๊งบ้านเหล่าคำธาตุจะส่งตัวล่อขี่ จยย.เข้าไปในชุมชน เพื่อหลอกให้วัยรุ่นบ้านโคกกุงตามไป เพื่อไปเจอกับพรรคพวกที่รออยู่ไม่น้อยกว่า 20-50 คนที่บริเวณสะพานข้ามห้วยบ้านสุขเกษมรอยต่อระหว่าง ต.หนองญาติ กับ ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม หากแก๊งบ้านโคกกุงไม่ยอมออกไปก็จะขับรถเข้ามาส่งเสียงโวยวายท้าทายดังลั่นในยามวิกาล แต่ทั้งหมดก็เป็นการบอกเล่าของผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น ข้อเท็จจริงอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน

ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เดินทางมาที่ สภ. เมืองนครพนม พร้อมเรียก พ.ต.อ. ณัฐฏวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวนฯ และ ร.ต.ท.(หญิง) มนัสนันท์ บุรีภักดี รอง สว.สอบสวนฯ เจ้าของคดี เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งคดีนี้มีเยาวชนถึง 3 คนเป็นผู้ถูกกระทำและลงมือกระทำ คือ 1.นายบูมผู้บาดเจ็บ อายุ 17 ปี 2.นายกายมือมีด อายุ 15 ปี และ 3.นายบาสผู้ร่วมก่อเหตุ อายุ 16 ปี การสอบสวนจึงต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างมาก และต้องสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ประกอบด้วย อัยการ ทนายความ นักจิตวิทยา เป็นต้น
หลังตรวจสำนวนในคำให้การของผู้ถูกกล่าวในเบื้องต้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.นายกาย 2.นายออฟ 3.นายบาส ว่า 1.ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัสโดยใช้อาวุธมีด 2.ทำให้เสียทรัพย์ โดยแยกการควบคุมตัวคือนายออฟอายุ 18 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุไม่ใช่เยาวชนจึงถูกควบคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ส่วนนายบาสไม่ได้ควบคุมตัวเนื่องจากเป็นเยาวชนจึงปล่อยตัวชั่วคราว โดยนัดผู้ปกครองนำตัวมามอบให้พนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้(28 ธค.) เพื่อส่งศาลเยาวชน สำหรับนายกายมือมีดที่คาดว่าหลบหนีไปแล้วจะออกหมายเรียกก่อน หากไม่มาตามหมายเรียกจำนวน 2 ครั้งก็จะพิจารณาขออนุมัติเป็นหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานเชิงรุกเกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่น และไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่มนี้เท่านั้น โดยเรียกตัวกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ทั้งหมด ที่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาทำประวัติไว้ หากมีงานรื่นเริงหรือเทศกาลให้ชุดสายสืบเข้าประกบหรือตรวจค้นอย่างละเอียด โดยใช้กล้อง CCTV ที่ติดอยู่ทุกมุมเมืองมาประกอบด้วย เพื่อเป็นการป้องปรามวัยรุ่นยกพวกตีกันที่ทุกจังหวัดประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้.