จากรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ วิเชียร ลายงาม ได้โพสต์ในเฟสบุ๊กประกาศว่า ผมอยากให้สื่อทีวีช่วยออกข่าวตามหาภรรยา ผมต้องทำอย่างไร ผมทำไม่เป็น เพราะว่าตอนนี้ เหมือนเธอจะโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ รูปต่อไปนี้คือรูปที่เธอไปถ่ายมาล่าสุดประมาณ 3-4 วันที่แล้ว ผมคิดว่าถ้าใช้เวลานานกว่านี้น่าจะไม่ทันการ มีใครรู้ว่าต้องติดต่อนักข่าวสื่อทีวียังไงบอกผมด้วยนะครับ ตอนนี้ผมและครอบครัวพี่น้องร้อนใจมาก รบกวนพี่นักข่าวสื่อทีวีเห็นโพสต์นี้แล้วช่วยผมด้วยนะครับ
วันที่ 5 มกราคม 2565 ผุ้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับผู้โพสต์ ทราบชื่อ นายวิเชียร ลายงาม อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 186 ม1.0 บ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเล่าให้นักข่าวฟังว่า ตนมีอาชีพพนักงานขับรถที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพรพราชดำริ นางนภาพร ลายงาม อายุ 48 ปี ก็ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่เดียวกันและมีอาชีพเสริมคือรับจ้างซักผ้า ตนและภรรยาอยู่กินกันมาได้ 27 ปีเศษ จนมีบุตร 1 คน อายุ 17 ปี นับเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ไม่มีทะเลาะเบาะแว้งกัน จนได้มาเล่นโซเชียลภรรยาของตนก็เปลี่ยนไป มักจะโพสต์เรื่องต่างๆลงเฟสบุ๊กเรียกว่าอยู่กับโทรศัพท์ทั้งวัน นายวิเชียร กล่าวต่อว่า วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ภรรยาตนได้หายไปจากบ้านทั้งที่ไม่เคยไปไหนคนเดียว ตนและลูกสาวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ตามหา แต่ภรรยาไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน และบอกด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงคนที่มาด้วยกันมีแต่ผู้หญิง แถมยังส่งภาพสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งไม่คุ้นตามาให้ ซึ่งตนได้นำไปให้เพื่อนบ้านดูจึงทราบว่าพื้นที่ตามภาพอยู่แถว จ.ฉะเชิงเทรา และชายทะเลแถวบางแสน จ.ชลบุรี ซึ่งภรรยาตนบอกว่าจะกลับให้ทันเวลาทำงาน
แต่วันที่ 2 มกราคม 2565 ลูกสาวของตนโทรหาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับบอกว่าแม่คงจะไม่ได้กลับแล้ว พร้อมทั้งร้องไห้ แล้วก็ตัดสายทิ้ง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย ตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงได้เข้าแจ้งความตำรวจให้ช่วยติดตาม ซึ่งตำรวจก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น จึงขอวอนถึงสื่อ ช่วยประกาศตามหาให้ด้วย หากยังมีชีวิตอยู่ก็ให้ติดต่อหาครอบครัวและญาติพี่น้องด้วย ทางบ้านให้อภัยทุกอย่าง แต่เกรงว่าภรรยาตนจะถูกดักขังหน่วงเหนี่ยวหรือเป็นอันจรายอย่างอื่น เพราะชอบพกเงินติดตัวมาก นายวิเชียรกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้ ด้าน นายยงยุทธ แสงเขียว อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกล่าวว่า เท่าที่ดูครอบครัวนี้ก็รักกันดี ภรรยาไม่เคยไปไหนวันๆหลังกลับจากทำงานก็อยู่แต่บ้าน ไม่เคยออกไปไหนคนเดียวถ้าไปก็จะไปกับครอบครัว คาดว่าอาจจะถูกหลอกลวงไปในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
/วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post