ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ วังคี สวย.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งจากนายชูเกียรติ สมานศิลป์ อายุ 66 ปี เจ้าของบริษัทรถพ่วงบรรทุกสินค้าไปส่งที่ท่าเรือไออาร์พีซี ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ที่พานายรุ่งโรจน์ ตันทะคูณ อายุ 38 ปี พนักงานขับรถพ่วง ว่าถูกพนักงานขับรถพ่วงของอีกบริษัทหนึ่งที่อยู่ในไซส์งานเดียวกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายรุ่งโรจน์ ให้การว่าขณะขับรถพ่วงเข้าส่งกะลาปาล์มที่ท่าเรือฯ ได้เกิดเหตุทะเลาะกับพนักงานของอีกบริษัท ที่กล่าวหาว่ารถไปเบียดกัน จนถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกรับแจ้งความไว้เพื่อเตรียมเจ้าตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุ
ระหว่างที่กำลังรอบันทึกปากคำ ปรากฎว่า นายสมชาย นำเจริญลาภ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลบริษัทรถพ่วงที่ถูกกล่าวหา ได้เดินทางมาที่สภ.เมือง ระยอง พร้อมเข้ามาพบร้อยเวร และ แจ้งเจตจำนงค์ว่าขอแจ้งความเช่นกันว่าพนักงานของตนเองถูกพนักงานของฝ่ายแรกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดจนได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้อีกฝ่ายตอบโต้ว่าไม่จริงจนกระทั่งทางตำรวจได้ให้ทั้งคู่หยุดโต้เถียงกัน และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
แต่วันนี้รับแจ้งความไว้แล้วให้กลับไปก่อนแล้วจะเรียกตัวมาสอบสวนและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งสองฝ่ายจึงเดินทางออกไปจากห้องสอบสวน
หลังจากที่นายชูเกียรติ เดินลงบันไดหน้าโรงพักเพื่อจะไปขึ้นรถกระบะสีดำซึ่งมีลูกน้องขับมาจอดรอเพื่อรับกลับที่พักพร้อมนายรุ่งโรจน์ อีกฝ่าย รออยู่ตรงด้านหน้าโรงพักเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทอีกฝ่าย ได้ขึ้นรถกระบะมารออยู่แล้วจำนวนประมาณ 30 คน ได้วิ่งกรูกันเข้ามารุมชกต่อย นายรุ่งโรจน์จนรับแทบไม่ทัน นายรุ่งโรจน์ร้องขอความช่วยเหลือลั่นโรงพัก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายได้วิ่งกันเข้าห้ามให้หยุดทำร้าย แต่เหตุการณ์ชุลมุนไม่มีใครยอมฟัง กรูกันเข้าทำร้ายนายรุ่งโรจน์จนสะบักสะบอม ตำรวจนายหนึ่งถึงกับตะโกนว่า”เห็นตำรวจเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง” แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ยอมหยุดทำร้าย ยังคงไล่ทำร้ายทั้งชกทั้งต่อยนายรุ่งโรจน์จนล้มกลิ้ง นายชูเกียรติ์ ลูกพี่พยายามเข้าไปช่วย เลยถูกลูกหลงไปหลายหมัด
จนกระทั่งต่อมาตำรวจได้เข้ามาห้ามกันเพิ่มขึ้น กลุ่มที่เข้ามาทำร้ายประมาณ 30 คน ได้หยุดและวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ด้านหน้า สภ.เมือง ระยอง แล้วจับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยนำตัวนายรุ่งโรจน์ และ นายชูเกียรติ์ ขึ้นมาบนโรงพัก และปฐมพยาบาลเบื้องต้น พบมีบาดแผลจากการถูกรุมชกต่อยที่ใบหน้าและลำตัวหลายแห่ง แต่ โชคดีที่ไม่มีการใช้อาวุธ จึงได้รับบาดเจ็บแค่ฟกช้ำ หลังจากนั้นจึงให้กลับไป
ด้านพ.ต.อ.อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมือง ระยอง ได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้เรียกเจ้าของบริษัททั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นบริษัทรถพ่วงที่มารับงานในจุดเดียวกัน มาทำการสอบสวน เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีทั้งหมดกี่คน ซึ่งจะตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งที่อยู่ใน สภ.เมืองระยอง
สำหรับทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทรถพ่วง ที่บรรทุกสินค้ามาลงในท่าเรือ โดยเป็นบริษัทที่ประมูลงานมาได้เหมือนกัน จึงมักจะเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง จนนำไปสู่การเกิดเหตุในครั้งนี้.
Discussion about this post