
ที่เกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดระนอง นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วยนายแพทย์อรุณ สัตยาพิศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระนอง นาวาเอก ณัฏฐ์ จรัสกุล หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมันคงท่าเรือจังหวัดระนอง///เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นางกรรณิการ์ เอี้ยวตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระนองและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลระนอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองระนอง และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่สีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจังหวัดระนอง เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกป้องกันโรคโควิด-19 โดยเน้นการฉีดเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 แต่หากมีผู้ตกค้างจะฉีดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ด้วย ซึ่งการฉีดวัคซีนแต่ละเข็มต้องมีระยะเวลาห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน มีทั้งวัคซีนซิโนแวค แอสตร้าเซนเนกา และไฟเซอร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 1,000 คน ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะทุกคนทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าวและนักท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะพยาม

นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนองได้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะเกาะพยาม เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวของจังหวัด จึงต้องสร้างความมั่นใจ โดยให้คนเกาะพยามทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งผู้ที่เดินทางมาทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เช่น ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงเป็นต้น ในส่วนของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จังหวัดได้ผ่อนคลายมาตรการให้สามารถจัดได้ทุกอย่างเพียงแต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเท่านั้น
สำหรับจังหวัดระนอง ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว จำนวน 423,156 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 190,956 คนคิดเป็น 83.57 % ของประชากรเป้าหมาย เข็มที่ 2 จำนวน 184,356 คน คิดเป็น 80.68 % เข็มที่ 3 จำนวน 43,079 คน คิดเป็น 18.85 % และเข้มที่ 4 จำนวน 4,755 คน คิดเป็น 2.08 %.
Discussion about this post