วันนี้ 31 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการ สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และทีมงาน ลงพื้นที่หมู่บ้านกูแบรายอ หมู่ที่ 4 ตำบลละแอ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ก็พบบ้านเก่าๆหลังหนึ่งซึ่งมีเด็กพร้า พ่อแม่ได้เสียชีวิตประมาณ 2 ปีมาแล้ว โดยที่พ่อเสียชีวิตไปก่อนแล้ว 5 ปี โดยทิ้งลูกสาวไว้ 2 คนในบ้านเลขที่ 27/2 บ้านกูแบรายอ เป็นบ้านไม้เก่าๆยกพื้นหลังคาสังกะสี ทรุดโทรมตามสภาพ เวลาฝนตกทำให้น้ำรั่วไหลต้องหามุมหลบซ่อนเวลานอนพักผ่อน ถึงอย่างไรก็เป็นบ้านที่เคยอบอุ่นอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว มาปัจจุบันนี้น้องต้องอยู่กัน 2 คนตามลำพังโดยมีน้าชายช่วยดูแลตามยถากรรม เพราะน้าชายก็หาเช้ากินค่ำพอประทันชีวิตไปวันๆ
ทางด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลละแอ เล่าว่า จากเรื่องราวของ 2 พี่น้องผู้กำพร้าพ่อแม่ ได้ออกข่าวตามโซเซียลต่างๆ ทำให้ทุกภาคส่วนและประชาชนได้รับรู้ต่างมาให้ความช่วยกันเหลือ ร่วมบริจาค มอบทุน พร้อมกำลังใจทำให้ 2 พี่น้อง ประกอบด้วยด้วยนางสาวพาดีละห์ ลาเต๊ะ อายุ 17 ปี และนางสาวนูรฮาซีกี ลาเต๊ะ อายุ 12 ปี มีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต “สำหรับจำนวนเงินที่ผู้มีจิตศรัทธามาบริจาค ให้กับ2 พี่น้องผู้กำพร้านี้ ผมในฐานะผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ได้ทำบัญชีเพื่อกำกับดูแลเงินในจำนวนนี้ เพื่อดูแลในการเรียนการสอน ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ซึ่งเงินที่ดูแลอยู่ในบัญชีนี้ จำนวน 400,000 กว่าบาท ไม่ร่วมกับที่ผู้มีจิตศรัทธามาบริจาคกับตัวน้องเอง” ซึ่งทางด้านกลุ่มเพื่อนบัณฑิต 3 จชต. ซึ่งมีกอง ทุนเด็กกำพร้าในกลุ่มอยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือเด็กพร้าและผู้ยากไร้ และผู้ได้รับผลกระทบในสถานการณ์ต่างๆ เป็นภารกิจหลักของกลุ่มเพื่อนบัณฑิต โดยวันที่ 30 ม.ค.56 ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่บ้านกูแบรายอ ตำบลละแอ ที่บ้าน 2 หนูน้อยกำพร้าพ่อแม่อยู่ตามลำพังตามยถากรรม มานานเกือบ 5 ปี นำผองเพื่อน 30 คน มามอบทุนการศึกษาให้กับน้องพาดีละห์ ลาเต๊ะกับน้องนูรฮาซีกี ลาเต๊ะ จำนวน 4,000 บาท
“กลุ่มเพื่อนบัณฑิต เป็นการรวมตัวเพื่อนช่วยเพื่อนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยใช้กีฬาฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ ผูกมิตรไมตรี พร้อมขอรับบริจาคตามจิตศรัทธาของเพื่อนในกลุ่ม มีเคสเด็กกำพร้าตรงไหนเราก็ไปมอบทันที่ หากพื้นที่ใดประสบสถาน การณ์อุทกภัย กลุ่มเราก็จิตอาสาเข้าไปช่วยเหลือ กลุ่มเราถือว่ากิจเพื่อนมนุษย์ใหญ่กว่ากิจส่วนตัว” นายมาซือลั่น ตายาลอ ประธานกลุ่มเพื่อนบัณฑิต3 จชต. กล่าว
น.ส.นูรฮาซีกี ลาเต๊ะ หนูน้อยกำพร้า กล่าวว่า เมื่อก่อนครอบครัวของเราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน พ่อแม่ลูก ถึงมีฐานะยากจนก็มีความสุขและอบอุ่นเท่าที่ครอบครัวเรามี มาปัจจุบันหนูก็ทนมานานแล้วตั้งแต่พ่อได้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ 5 ปี แล้วแม่มาเสียชีวิตอีก 2 ปีกว่าแล้ว ต้องอาศัยอยู่กับน้า และครอบครัวของน้าเขา ขอบ คุณน้ำใจผู้ใจบุญทุกคนที่มาบริจาคปัจจัยให้พวกหนูได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ขอสัญญาจะเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียนมีงานทำที่ดี พร้อมที่จะกลับมาดูแลคนที่ด้อยโอกาส อย่างหนูขอสัญญาค่ะ.
Discussion about this post