หนุ่มอุดรฯ เสพยาเกินขนาด หัวใจล้มเหลวตายอืดในหอพัก พบห่อยาบ้า ยาไอซ์และอุปกรณ์เสพเพียบ !! 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ร.ต.อ.หญิง ปรีญาภรณ์ พร้อมโภคิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในห้องพักหายเลข 222 หอพักไม่มีชื่อ ภายในซอยพรมประกาย 2 ถนนพรมประกาย เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม

พบเป็นหอพักสร้างเป็นตึก 3 ชั้น มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องหมายเลข 222 เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบศพนายวงศ์วัญ เหล่าบุรินทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 400/3 หมู่ 14 ซอยบ้านเก่าจาน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นอนเสียชีวิตขึ้นอืดอยู่ที่พื้นห้องข้างเตียงนอน สภาพศพใส่กางเกงบล็อกเซอร์ ไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้า เลือดปนน้ำเหลืองไหลนองพื้น ข้างศพมียาบ้าเม็ดสีเขียว 1 เม็ด อุปกรณ์การเสพยาไอซ์และยาบ้า ไฟแช็ค ซองพลาสติกมีคาบผงสีขาว วางอยู่ที่พื้น ตรวจค้นภายในตู้เสื้อผ้า พบกระดาษไขสีเหลืองสำหรับห่อยาบ้าจำนวน 5 ห่อ แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบ พลัน มาประมาณ 5 วัน

ส่วนนายนภาดล กวนศักดิ์ อายุ 57 ปี ผู้ดูแลหอพัก เล่าว่า ผู้ตายเคยทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี มาเช่าห้องพักอยู่คนเดียวได้ประมาณ 1 ปี แต่พอโควิด-19 ระบาด โรงแรมหยุดให้บริการ ผู้ตายจึงไม่ได้ไปทำงาน แต่ยังเช่าห้องอยู่และจ่ายเงินค่าเช่าปกติ ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่า เคยป่วยและผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่ว ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนยังเห็นผู้ตายขี่รถเข้าออกหอพัก ไปตลาดซื้อกับข้าว แต่มาสัปดาห์นี้ตนไม่เห็นผู้ตาย เพราะตนพักอยู่ที่บ้าน จะมาหอพักไม่ตรงกับผู้ตายจึงไม่เห็นกัน พอผู้เช่าหอพักตรงกันข้ามถ่ายรูปส่งมาดูคาบสีแดงไหลคงมาจากห้องผู้ตาย จึงมาเปิดดู ก็พบว่านอนตายขึ้นอืดแล้ว จึงแจ้งตำรวจ

นายวรพล อุปฮาด อายุ 25 ปี ผู้เช่าหอพัก เล่าว่า ตนพักอยู่ชั้นหอพักชั้นเดียวฝั่งตรงกันข้าม ส่วนผู้ตายพักอยู่ชั้น 2 วันนี้ตนเดินมาใต้ถุนหอพัก เพื่อมาเอารถจักรยานยนต์ขี่ไปรับแฟน พบน้ำสีแดงไหลลงมาจากพื้นห้องผู้ตาย และหยดลงพื้นใต้ถุน ซึ่งตนมาจอดรถทุกวันพึ่งเคยเห็นวันนี้ ตนออกไปรับแฟนกลับมา ก็พบว่าน้ำสีแดงไหลลงมานองพื้นมากขึ้น จึงถ่ายรูปแล้วส่งไปในไลน์แจ้งผู้ดูแลหอพักมาดู จึงใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไปดูก็พบเจ้าของห้องนอนตายขึ้นอืด

ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัว แถมยังตกงานจนเครียด เลยมาหันมาเสพยาเสพติด จนเป็นเหตุให้โรคประจำตัวกำเริบ เสียชีวิตโดยไม่มีใครพบเห็น จึงนำศพไปไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป.