
สำหรับความคืบหน้าช้างป่าเพศผู้เขาชะเมา จ.ระยอง หรือ ที่ชาวบ้านเรียกชื่อ พลายโค๊ก ที่เคยบาดเจ็บจากการต่อสู้กับช้างป่าด้วยกัน เมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมาและทีมสัตวแพทย์และสัตวบาลจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกับหัวหน้าและเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวัง ผลักดันช้างป่าและแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ชุดที่ 6 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า กลุ่มกรินคีรี กลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า เข้าติดตามและรักษาอาการบาดเจ็บของช้างป่า เข้าไปให้การรักษาและเฝ้าติดตามอาการนานนับเดือนนั้น
ล่าสุดมาถึงวันนี้(14 ก.พ.65) พลายโค๊กได้ออกมาจากป่าเขต อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าหน่วยสีระมัน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ที่เคยซ่อนตัว สภาพของพลายโค๊กซูบผอม ไม่มีเรี่ยวแรง แทบพยุงตัวเองยืนไม่ไหว ต้องพิงต้นไม้ นอกจากนี้ยังพบว่าขาหน้าซ้ายที่บาดเจ็บยกก้าวไม่ได้ มีอาการอารมณ์หงุดหงิด โดยคาดว่าบาดแผลพลายโค๊ก น่าจะเกิดการอักเสบมีหนองข้างใน เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้เข้าไปทำการรักษาโดยการให้ยาในอาหาร ทีมสัตวแพทย์ที่ติดตามรักษาพลายโค๊ก ได้ประเมินอาการ ว่า พลายโค๊ก น่าจะติดเชื้อ ที่บาดแผล ทำให้แผล บวมมีหนองไหล อยู่ตลอดเวลา ทางทีมแพทย์จึงได้ยิงยาแก้อักเสบ แก้ปวด และให้ยากินทุกวัน เพื่อบรรเทาอาการและล้างแผล จากการตรวจสอบอาการ ของพลายโค๊ก จากวันแรก ถึงวันนี้ มีร่างกายซูบผอมลง อาการ ยังน่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับช้างป่าเพศผู้ พลายโค๊กตัวนี้ ชาวบ้านต่างเล่าขานถึงพฤติการณ์ว่า เป็นช้างป่าที่มีนิสัยไม่เกเรและเป็นที่รักของชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนี้ชาวบ้านยังเล่าว่า เวลาจะมีโขลงช้างป่าลงมาทำลายกัดกินพืชผลการ เกษตรชาวบ้านในพื้นที่ พลายโค๊กจะลงมาเตือนชาวบ้านให้รู้ตัวก่อนที่โขลงช้างป่ากลุ่มนี้จะลงมา เพื่อเตรียมพร้อมในการผลักดันขับไล่โขลงช้างป่า ป้องกันพืชผลการ เกษตรไม่ให้ถูกทำลาย ชาวบ้าน ยังเล่าด้วยว่า สาเหตุที่พลายโค๊ก ถูกโขลงช้างป่าทำร้ายครั้งนี้ น่าจะเกิดมาจากเหตุผลนี้ด้วย.
Discussion about this post