
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครพนม เพื่อร่วมหารือแนวทางในการขับเคลื่อนแผนงานโครงการ และหารายได้เข้ากองทุน TO BE NUMBER ONE ของแต่ละอำเภอเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมต่าง ๆ และเตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดจังหวัด อำเภอและชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 8 มีนาคม 2565 ณ โรงแรมพูลแมน ราชา ออคิด ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
โดยที่ผ่านมาจังหวัดนครพนมได้มีการน้อมนำแนวทางการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาเป็นเครื่องมือในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งได้ยึดหลัก 2 ป. 2 บ. คือ ป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และบูรณาการ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอ ระดับตำบล และเน้นย้ำให้มีการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดนคร พนมไปข้างหน้าเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า ชาวนครพนมมีสุข ด้วยวิถี TO BE NUMBER ONE ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการกัน ช่วยสร้างสรรค์เยาวชนให้เก่งและดี ภายใต้ยุทธ ศาสตร์การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันปัญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่เยาวชนและยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างมากมาย โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาคว้ารางวัลระดับประเทศมาได้ 6 รางวัล

คือ รางวัลชนะเลิศประเภทกลุ่มดีเด่น ชมรม TO BE NUMBER ONE 1 รางวัล รางวัลรางวัลกลุ่มต้นแบบ TO BE NUMBER ONE 4 รางวัล และรางวัลผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ประเภทบุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม 1 รางวัล และในเบื้องต้นปีนี้จังหวัดนครพนมก็ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดจังหวัด อำเภอและชมรม TO BE NUMBER ONE อีกครั้งโดยเตรียมส่งตัวแทน 15 แห่งเข้าร่วมแข่งขัน ขณะที่ด้านการหารายได้มาสนับสนุนกิจกรรมนั้นได้เตรียมจัดทำเสื้อ TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครพนมออกมาจำหน่าย และเตรียมจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด จังหวัดนครพนม ปี 2565 เพื่อให้ผู้ที่มีจิตใจรักในการออกกำลังกายด้วยกีฬากอล์ฟได้มาสนุก ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะมาเป็นงบประมาณสนับสนุนการทำกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ของแต่ละอำเภอ ทั้งยังเตรียมเดินทางไปร่วมสัมมนาเครือข่าย TO BE NUMBER ONE เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการดำเนินงานและการขับเคลื่อนแผนงานกับภาคีเครือข่ายที่จังหวัดปทุมธานีอีกด้วย.
Discussion about this post