
วันที่ 18 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ศรชล.จังหวัดระนอง ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษทางเรือ นำเรือ ต.232 ออกลาดตระเวนในแม่น้ำกระบุรี ในพื้นที่ตั้งแต่ อ.เมืองระนอง ผ่าน อ.ละอุ่น จนไปถึงพื้นที่ ม.3 ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี บริเวณท่าน้ำช่องทางธรรมชาติ ซึ่งมีคลองขนาดเล็กเป็นแนวกั้นเขตแดนระหว่างจังหวัดเกาะสองประเทศเมียนมากับจังหวัดระนองประเทศไทย
เมื่อมาถึงจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง กำลังลำเลียงยางพาราแผ่น จากเรือหางยางที่บรรทุกมา ขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดอยู่บนฝั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นยางพาราแผ่นที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเมียนมา จึงนำเรือไปจอดอีกจุดใกล้ๆกัน เพื่อไม่กลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ เมื่อจอดเรือเสร็จเจ้าหน้าที่ได้รีบเดินเท้าไปยังจุดที่กลุ่มคนกำลังนำยางพาราขึ้นยางแผ่นจากเรือขึ้นรถ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวพร้อมสั่งให้ทุกคนหยุดการทำงานจากนั้นทำการสอบถามในเบื้องต้นจากนาย สมพร วันไชย ที่ยอมรับว่าเป็นเจ้า ของยางที่กำลังขนขึ้นรถ หมายเลขทะเบียน 3880 ระนอง โดยสมพร บอกว่ายางชุดนี้มีนำหนักจำนวน 5,000 กิโลกรัม ลักลอบนำมาจากประเทศพม่าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ขึ้นใกล้หมดแล้วยังเหลืออยู่ในเรือหางยาวอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาขายยังร้านรับซื้อฝั่ง อ.กระบุรี โดยจะได้ส่วนต่างหรือกำไรจากราคาที่รับซื้อจากพม่ามาขายใน อ.กระบุรี ราคากิโลกรัมละ 10 บาท
เจ้าหน้าที่ถามต่อว่าเดิมทำอาชีพอะไรนายสมพร บอกรับจ้างตัดปาล์ม อยู่ในพื้นที่มานาน เคยช่วยเจ้าหน้าภาครัฐบางหน่วยงานชี้เป้าและร่วมเข้าจับกุมผู้ลักลอบขนยางจากเมียนมา หลายครั้งจนทราบว่าได้ราคาดี รู้การทำงานว่าเป็นอย่าง จึงคิดว่าน่าจะมาทำเองทำมาหลายครั้ง แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้จะมาถูกทหารเรือจับถึงจุดที่ขึ้นยาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรจังหวัดระนอง นำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางยางพารา รถยนต์ เรือหางยาว ไปดำเนินคดีตามกฏหมายเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับการนำเข้าสินค้าต้องห้ามเข้ามาในประเทศไทย.
Discussion about this post