
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นประธานเปิดการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โดยมี นายปิยะ บุญมาประเสริฐ ผู้ช่วยสำนักพัฒนา SME และStartup ( ธกส. ) พร้อมด้วย นางสาววัชรินทร์ กลางประพันธ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหนอง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ SME ณ ห้องดุสิตา โรงแรมมุกดา หารแกรนด์ โฮเทล อ.เมือง จ.มุกดา หาร เพื่อพบปะเชื่อมโยงธุรกิจตลอดห่วงโซ่โคเนื้อ ทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงโคเนื้อ ผู้รวบรวมตลอดจนผู้แปรรูป เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพโดยลดต้นทุนการผลิตและสร้างเครือข่ายด้านการตลาดร่วมกัน เป็น การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจโคเนื้อ เพื่อลดผลกระทบการเปิดเสรีทางการค้า
นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้จัดให้มีการพบปะตลอดห่วงโซ่ธุรกิจโคเนื้อ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ โดยมีสหกรณ์การ เกษตรหนองสูง จำกัด ที่มีความพร้อมด้านความรู้ ความชำนาญ ประสบ การณ์การผลิตอาหารข้นและโคเนื้อแปรรูป มีโรงชำแหละที่มีการใช้เทคโน โลยีและนวัตกรรมในกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน เป็นหัวขบวนในห่วงโซ่ธุรกิจ พร้อมภาคภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 35 แห่ง ทั้งกลุ่มผู้ผลิตพืชอาหารสัตว์ เช่น สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. จังหวัดกำแพงเพชร จำกัด กลุ่มผู้ผลิตโคเนื้อ เช่น สหกรณ์การ เกษตรวังชิ้น จำกัด กลุ่มผู้รวบรวมโคเนื้อ เช่น สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.จังหวัดมุกดาหาร จำกัด กลุ่มแปรรูป เช่น สหกรณ์การ เกษตรหนองสูง จำกัด ให้มาเชื่อมโยงธุรกิจ วางแผนการตลาดร่วมกันทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุนการผลิตโดยองค์กรของเกษตรกรได้พบกันโดยตรง การผลิตโคเนื้อคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยใช้ตลาดนำการผลิตอันส่งผลโดยตรงกับการเกษตรผู้เลี้ยงโคเนื้อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
นางสาววัชรินทร์ กลางประพันธ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหนองสูง เปิดเผยว่า วันนี้มีการสัมมนาเชื่อมโยงธุรกิจของโคเนื้อ เริ่มจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งสหกรณ์การเกษตรหนองสูงเป็นหัวขบวน ในการทำธุรกิจ ในส่วนของดคเนื้อ มีกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ได้เชื่อมโยงและมาประชุม รวมถึงกลุ่มที่ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ ได้เข้ามาร่วมในวันนี้ ส่วนต้นน้ำคือ แม่พันธุ์ผลิตลูก กลางน้ำคือ เอาโคที่หย่านมไม่ถึง 6 เดือน เตรียมพร้อมที่จะทำการขุน ปลายน้ำคือ เอาโคขุนที่ต่อจาก 6 เดือน ไปขุนต่ออีก 1 ปี แล้วกลับมาเชือดที่สหกรณ์หนองสูง และส่งตลาดต่อ ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 7,000 กว่าคน แต่สมาชิดที่ขุนโคให้กับทางเราประมาณ 2,000 กว่าคน และมีโคที่ขึ้นทะเบียนในระบบประมาณ 5,700 กว่าตัว

ส่วนตลาดขายส่งส่วนใหญ่ที่กรุงเทพ มหานคร 80 % รองลงมาเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และขายส่งภาคอีสาน ในศูนย์กระจายสินค้าในตัวจังหวัด ส่วนสถานการณ์โควิด ไม่มีผลกระทบต่อสหกรณ์ โคขุนของเราเป็นโคที่ปลอดภัย มีฟาร์มมาตรฐาน โรงชำแหละมาตรฐาน GMP มี ISO มีฮาลาล มีระบบที่ปลอดภัย ก็เลยไม่มีผลกระทบโควิด
สำหรับการตลาดของเรา เราได้ทำ การซื้อขายล่วงหน้า หลังจากมีตลาดแล้วค่อยแพลนเรื่องการผลิต ก็เลยไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสมาชิกล้นตลาด ทางสหกรณ์การเกษตรหนองสูง ได้รับการสนับสนุนจาก ธ.ก.ส. เป็นโครงการชุมชนสร้างไทย ซึ่งกู้ล้านละหนึ่งร้อยบาท และทางสหกรณ์หนองสูงได้โครงการนี้มาทั้งหมด 50 ล้าน เป็นโครงการรวบ รวมผลผลิตโค 30 ล้าน และเป้นรวบรวมวัตถุดิบอาหารสัตว์ 20 ล้าน ทาง ธ.ก.ส. ให้เงินทุนดอกบี้ยต่ำ
ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหนองสูง เปิดเผยว่าอีกว่า นอกจากนี้มีโครง การโคขุนสู่ชุมชน เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนที่ส่งวัวให้กับทางสหกรณ์เป็นตลาดชุมชน โคที่สมาชิกส่งให้กับเรา เราเชือดแล้วคืนให้กับสมาชิกเป้นตลาดล่าง เพื่อให้ชุมชนได้ทานเนื้อ ส่วนเนื้อโคขุนมีหลายเกรด หลายราคา และมีราคาที่จับต้องได้ และถูกกว่าโคพื้นเมือง และความปลอดภัยดีกว่า.
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร
Discussion about this post