พ่อเมืองประจวบฯ สั่งตรวจสอบเหล็กเส้นทำแนวรั้วกันช้างป่าละอูถูกกองทิ้งนานร่วมปีจากพิษโควิด !!

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายช่างผู้ควบคุมงาน บริษัท บี เพาเวอร์ แฟคตอรี่ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจดูโครงการก่อสร้างแนวรั้วป้องกันช้างป่า หมู่ 2 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ภายหลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าพบเห็นเหล็กเส้นทำแนวรั้วกันช้างป่าจำนวนมากถูกกองทิ้งขึ้นสนิมอยู่ภายในพื้นที่ของตำรวจพลร่มชุดพัฒนาการเคลื่อนที่ 712 นานร่วมปี โดยไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเพราะเสียดายงบประมาณจากภาษีของประชาชน

นายคมกริช เปิดเผยว่า นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ได้สั่งการให้ตรวจสอบในเรื่องนี้ เบื้องต้นทราบว่าโครงการดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการลงนามในสัญญาจ้างกับบริษัทผู้รับเหมาเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 64 ระยะการเวลาการก่อสร้าง 200 วัน สิ้นสุดโครงการฯวันที่ 17 ตุลาคม 64 โดยได้รับจัดสรรงบประมาณจากงบฉุกเฉินของรัฐบาลในการดำเนินการ ต่อมาอุทยานแห่งชาติแก่งกระ จานได้มีหนังสืออนุญาตให้เข้าพื้นที่ทำงานเมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 และผู้รับจ้างเริ่มเข้าทำงานในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.คม 64 แต่เนื่องจากในห้วงเวลาดังกล่าวบริเวณพื้นที่บ้านป่าละอูได้มีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมาก จนถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงและเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีแดงเข้มตามลำดับ จึงเกิดปัญหาเรื่องของการนำคนงานเข้าในพื้นที่ ประกอบกับเข้าช่วงฤดูฝนใหญ่จึงทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนดระยะเวลาการก่อสร้าง 200 วัน สัญญาจ้างดังกล่าวมีผลตกไปตามปีงบประมาณ ทางกรมอุทยานฯเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการช่วยเหลือราษฎรและป้องกันการออกนอกพื้นที่ของช้างป่าได้ จึงพยายามจัด สรรงบประมาณจากงบปกติมาใช้ดำเนินการต่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเร่งการทำงานให้แล้วเสร็จ

สำหรับวัสดุเหล็กเส้นที่นำมากองรวมกันอยู่ในบริเวณดังกล่าว ผู้รับจ้างได้มีการกำหนดจุดรวมวัสดุเป็นจุดๆตามไซต์งาน เพื่อง่ายและสะดวกในการนำมาใช้ ขณะนี้งานยังมาไม่ถึงบริเวณดังกล่าว ซึ่งได้กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการล้างและเคลือบป้องกันสนิมก่อนนำไปใช้ก่อสร้าง พร้อมกำชับ บริษัท บี เพาเวอร์ แฟคตอรี่ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้.