ปราจีนบุรี – รถยนต์พ่วง 18 ล้อเบรคแตกพุ่งชนบ้านประชาชน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้10 มี.ค.65 ร.ต.อ. กิตติศักดิ์ สินธร รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ. ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคันที่ สถานที่เกิดเหตุบริเวณสี่แยกไฟสัญญาณไฟจราจรคลองรั้ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จึงรายงานผู้บังคับตามลำดับชั้นและรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

พบรถคันแรกด เป็นรถเก๋ง 1 คันได้รับความเสียหายทางด้านท้าย คันที่ 2 เป็นรถกระบะ 1 คัน ได้รับความเสียหายทั้งด้านขวาพังยุบทั้งแถบและคันที่ 3 รถ 6 ล้อตู้บรรทุก พบมีรอยเฉี่ยวชนฝั่งด้านขวาและยังได้เสียหลักพุ่งเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนห่างจุดเกิดเหตุชนกัดสาดหน้าบ้านพังเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตใด ๆแต่เป็นที่น่าหวาดเสียวสำหรับผู้พบเห็นหรือเดินทางผ่านไป-มา

จากการสอบสวนข้อมูลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ เจ้าของรถยนต์กระบะกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงที่ตนเองขับรถ กำลังเลี้ยวเข้าเขตนิคมอุตสาหกรรม 304 จังหวะชะลอจอดรอให้รถฝั่งขวาเข้าไปก่อน จังหวะนั้น นอกจากมีรถของตนเอง 1 คันแล้ว ยังมีรถยนต์เก๋ง 1 คันและรถ 6 ล้อตู้ทึบ 1 คันจอดรอเพื่อจะเลี้ยว ไปที่นิคมฯ 304 ช่วงจังหวะดังกล่าวได้มีรถบรรทุกพ่วงของบริษัทดังแห่งหนึ่งบรรทุกของมาเต็มคัน ไม่ทราบว่าเกิดเสียหลักหรือว่าอย่างไรหรืออาจวูบ? ได้เลี้ยวเข้ามาและเบียดรถตนเองกับรถบรรทุก 6 ล้อจนพุ่งเข้าไปในร้านทำเหล็กดัด ขณะนั้นตนเองก็ได้แต่งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!!

หลังจากสงบแล้วจึงได้เปิดประตูรถออกมาสำรวจก็ได้ทราบว่ารถเขาเองได้รับความเสียหาย ส่วนรถยนต์บรรทุก 6 ล้อนั้นความแรงที่ถูกชนได้พุ่งเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชน เดชะบุญที่ไม่มีผู้ใดอยู่หน้าร้าน ทำเหล็กดัดดังกล่าว

และจากการถามเจ้าของร้านทำเหล็กดัดได้บอกว่าวันนี้(10มี.ค.) ตนเองได้นำเหล็กดัดและลูกน้องไปติดตั้งงานข้างนอกร้าน จึงโชคดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 เลยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตแต่อย่างใด แต่ถ้าปกติแล้วไม่ได้ไปติดตั้งงานข้างนอก จะมีช่างทำเหล็กดัดอยู่ 3-4 คน ถ้าหากมีคนงานอยู่ก็คงจะมีบาดเจ็บหรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้? วันนี้ยังถือว่าโชคดีส่วนค่าเสียหายก็แล้วแต่ทางประกันภัยรถพ่วงจะดำเนินการเข้ามาดูแล

ส่วนตัวคนขับรถพ่วงนั้นได้แจ้งว่า ขับรถมาถึงยังจุดเกิดเหตุช่วงรถติดไฟแดงอยู่ จากที่เป็นรถบรรทุกหนักขณะนั้นรถตนเองเบรคแตกเอารถไม่อยู่ จึงได้ตัดสินใจหักมาในช่องทางซ้าย ที่มีรถปริมาณน้อยกว่าจุดอื่น ถ้าขับตรงไปข้างหน้าไม่ทราบว่าจะมีรถเสียหายอีกกี่คันเลย อาจจะมีผู้บาดเจ็บมากกว่านี้

จึงได้ตัดสินใจเบี่ยงรถมาทางซ้ายกว่ารถจะไปจอดนิ่งได้ก็ร่วม 100 เมตร จากนั้นจึงได้แจ้งทางบริษัทฯ ให้ทราบและให้ทางประกันภัยเดินทางประตูยังที่เกิดเหตุ ขณะทาวงร้อยเวรฯ ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคันที่เกิดเหตึมาที่สภ.ศรีมหาโพธิเพื่อตกลงเรื่องค่าเสียหายต่อไป