ทหารพรานรวบหนุ่มใหญ่เอเย่นต์ยานรกรายย่อยคาโขง พร้อมของกลางยาบ้า แสร้งออกหาปลาเลี้ยงชีพ จนท.พบส่งมอบกันกลางแม่น้ำ !! 

วันที่ 22 เม.ว.65 น. ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2109 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านเหล่าหนาด หมู่ 8 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ว่า จะมีการรับส่งยาเสพติดบริเวณริมแม่น้ำโขง จึงสนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการควบคุมที่ 1 (บก.ควบคุมที่ 1) ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว หมวด QRF กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม สถานีเรือบ้านแพง , ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) ฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน และ ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน กระจายกำลังลาดตระเวนซุ่มเฝ้าตรวจ จุดเสี่ยง จุดล่อแหลมในพื้นที่รับผิดชอบ

เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มได้ตรวจพบนายพิสมัย สุวรรณบุผา หรือปิ๊ก อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 8 บ้านเหล่าหนาด ต.พนอมฯ ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายที่หน่วยติดตามพฤติ กรรม ได้เดินลงมาบริเวณริมแม่น้ำโขง จากนั้นเดินไปยังเรือกีบที่จอดไว้บริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นเรือหาปลาของนายปิ๊กเอง แล้วหยิบจับวัตถุสิ่งของบางอย่างในเรือ ลักษณะท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นและตรวจสอบวัตถุสิ่งของ ผลการตรวจสอบพบเป็นยาบ้า จำนวน 8 มัด จึงทำการตรวจยึดจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมายัง บก.ร้อย.ทพ.2109 เพื่อสอบสวนขยายผล ตรวจนับยาบ้าจำนวน 8 มัด ประมาณ 16,000 เม็ด พร้อมยึดของกลางเรือกีบเพลายาว 1 ลำ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้น นายปิ๊ก ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเย่นต์ย่อยรับยาบ้ามาจากประ เทศเพื่อนบ้าน โดยทำทีแล่นเรือออกไปหาปลากลางแม่น้ำโขง จากนั้นก็จะมีคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล่นเรือมาประกบ ส่งมอบยาบ้าให้กันกลางแม่น้ำ ตนก็จะแล่นเรือเข้ามาจอดเทียบท่า โดยซุกยาบ้าไว้ในลำเรือ แล้วตบตาเจ้าหน้าที่แกล้งเดินขึ้นท่าไปแบบมือเปล่า วันรุ่งขึ้นจึงจะกลับลงมาเอาไปจำหน่ายให้กับผู้เสพในชุมชน และหมู่บ้านใกล้เคียง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ย้อนศรจับกุมได้ดังกล่าว

ส่วนด้านการข่าวโดยชุดปฏิบัติการได้รับข้อมูลจากผู้ต้องหาในคดียาเสพติดก่อนหน้านี้หลายราย ว่า ได้ยาบ้าจากผู้ใดในหมู่บ้าน ชุมชน ก่อนจะติดตามความเคลื่อนไหวและเฝ้าระวัง ซึ่งบริเวณจับกุมตัวนายปิ๊กก่อนหน้าก็ตรวจยึดยาบ้าได้บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านเหล่าหนาด หมู่ 8 จำนวนสองพันกว่าเม็ด โดยคนร้ายก็เป็นบุคคลเป้าหมายที่ติดตามพฤติ กรรม แต่ไหวตัวทันอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ อีกทั้งยังมีนามสกุลเดียวกับนายปิ๊กผู้ต้อง หารายนี้ด้วย.