พระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา อำเภอสุไหงปาดี นำ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิ การพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ตรวจสอบสภาพหมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทั้งที่ในอดีต เคยเป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านมาก่อน แต่ปัจจุบันชาวบ้านกลับเป็นผู้บุกรุกป่า โดยพื้นที่ทั้งหมดครอบคลุม 20,000 ไร่ ประมาณ 8 หมู่บ้าน อ.ตากใบ อ.สุไหงปาดี และ สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ก่อนที่จะมีการประกาศเป็นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เป็นที่ชาวบ้านมีหลักฐาน นส. 3 ก็มี สค.1 ก็มีอยู่แล้วแต่พอประกาศ เป็นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เป็นกฎหมายเข็มข้นมาก คือ พอประกาศแล้วชาวบ้านเป็นผู้อยู่ในพื้นที่ป่า คือบุกรุกป่า ทั้งที่เขาอยู่มาก่อน นั้นคือส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องอาชีพที่เขาทำอยู่ ถ้าเป็นที่ของรัฐ การจะทำสาธารณูโภค เช่น คลอง น้ำก็ดี ถนน หนทาง ต้องไปขออนุญาต กับเจ้าของที่ ซึ่งจริงๆคือที่ของชาวบ้าน แต่พอถูกประกาศ ก็ต้องไปขออนุญาตกับกระทรวงทรัพย์ กรมป่าไม้ กรมอุทยาน สาธารณูปโภคต่างๆมันก็จะทำไม่ได้ คือชาวนา ก็ต้อง มีน้ำทำนา ชาวบ้านต้องมีน้ำ อันนี้ก็เป็นปัญหา ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ
นี้ถ้าไม่ได้เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นพุทธที่ คนเคารพเสียงชาวบ้านก็ไม่ค่อยดัง เป็นพระภิกษุสงฆ์ ที่ต้องพัฒนาด้วย ท่านพูดท่านไม่มีผลตอบแทนอะไร แต่ท่านอยากให้พี่น้องที่อยุ่ในพื้นที่ อยู่ด้วยความเป็นธรรม และอยู่อย่างมีความสุข เขามีสิทธิ์อยู่ วันนี้ก็ได้มาดูให้เห็นกับตา ท่านบอกว่า ครอบคลุม 20,000 ไร่ ประมาณ 8 หมู่บ้าน อันนี้ ต้องแก้เชิงระบบ และอีกส่วนหนึ่ง ข้าราชการมาที่หลัง มันถูกประกาศโดยข้าราชการชุดเก่า ถ้าแก้ ส่วนหนึ่งต้องแก้เป็นกฎหมาย ในสามจังหวัดมีหลายพื้นที่.
Discussion about this post