
10 ปี “ทับหลีติวเตอร์” ดาบตำรวจทิ้งโอกาสตัวเองปั้นเด็กสู่วงการตำรวจกว่า 100 คน เน้นย้ำเป็นตำรวจในหัวใจประชาชน สำเร็จแล้วอย่าลืมกลับมาดูแลรุ่นน้องกันต่อ ในขณะที่ชุมชนช่วยหนุน ข้าวปลาอาหารขณะที่เด็กติวเข้มไม่ขาดสาย พร้อมเปิดบัญชีกองทุนเป็นค่าใช้จ่ายให้เด็กเดินทางไปสอบ เปิดโอกาสครอบครัวยากจนส่งลูกมาติวเข้ม และดึงเด็กที่เคยเดินทางผิดกลับเข้าสู่เส้นทางที่ดี ลดปัญหาสังคมและยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตู้ตำรวจทางหลวงทับหลี ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง พบ ด.ต.สนอง ยิ้มศรี ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. หัวหน้าตู้ตำรวจทาง หลวงทับหลี ในวัย 55 ปี ซึ่งเด็ก ๆ จะเรียกติดปากว่า “ลุงหนอง” ซึ่งพื้นที่ด้านหลังถูกใช้เป็นสถานที่กวดวิชาสอบเข้าโรงเรียนตำรวจโดยใช้ชื่อว่า “ทับหลีติวเตอร์” มีศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และชาวบ้านกำลังร่วมกันปรับปรุงศาลาไม้ไผ่ที่นั่งพักผ่อนสำหรับทุกคน ซึ่งในวันนี้ได้มารวมตัวกันเพื่อพบปะและแสดงความยินดีกับศิษย์ทับหลีติวเตอร์รุ่นล่าสุดคือรุ่นที่ 12 ซึ่งสอบได้ถึง 25 คนจากที่เดินทางไปสอบ 29 คน
ด.ต.สนอง ยิ้มศรี หัวหน้าตู้ตำรวจทางหลวงทับหลี เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ตนเองเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยบริการประชาชนทับหลี ซึ่งยังถือว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลมา หลังจากได้พบปะกับประชาชนและผู้ปกครอง ก็พบว่าเยาวชนจำนวนหนึ่งว่างงานและมีปัญหาเรื่องยาเสพติด รวมถึงอีกจำนวนมากไม่สามารถส่งลูกให้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ ตนเองจึงอาสาเป็นครูสอนติวเข้มให้กับเด็ก ๆ เพื่อไปสอบเรียนต่อในโรงเรียนตำรวจโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ต้องอยู่ในกฎ ระเบียบ วินัยที่กำหนด คือต้องขยัน อดทน ต้องอ่านหนังสือ จึงจะมีแนว ทางที่จะสอบเข้าตำรวจได้ เพราะเพียงแค่มีเงินไม่สามารถจะสอบเข้าได้ กลางปี พ.ศ. 2555 ตนจึงได้เริ่มสอนเด็ก ๆ จำนวน 7 คน เป็นเวลา 6 เดือน โดยใช้เวลาว่างจากการปฏิบัติภารกิจ สอนทุกอย่างทั้งวิชาคณิต ศาสตร์ สังคม ภาษาไทย อาเซียน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น และภาษาอังกฤษ ซึ่งตอนแรก ๆ ก็ใช้วิธีการเปิดจากยูทูปบ้าง และยังไร้ทิศทาง โดยตนเองได้ใช้เงินส่วนตัวมาเป็นค่าใช้จ่าย และปลูกผักสวนครัวเพื่อนำมาประกอบอาหาร โดยในรุ่นแรกสามารถสอบได้ 2 คน ปัจจุบันรับราชการตำรวจทั้งคู่ เมื่อรุ่นแรกผ่านไปได้ ชุมชนเริ่มมองเห็น เด็ก ๆ และเยาวชนบางส่วนเริ่มสนใจอยากจะเข้ามาเรียนด้วย ทำให้ในปีต่อ ๆ มาก็มีเด็กเข้ามาเรียนมากขึ้น ส่งผลให้รอบ ๆ ตัวของตนเข้ามาเป็นพลังสนับสนุน ทั้งผู้บังคับบัญชาคือ 1.พตอ.ธนนท์ โตงิ้ว รอง ผบก.ทล.2. พตอ.เจริญพงษ์ ขันติโ ล ผกก.ตม. ปทุมธานี 3.พตท.สมพงษ์ เอกวัฒรอง ผกก.5 บก.ทล.ช่วยราชการ กก.2 บก.ทล.4.พตต.พิทยา ธนาวุฒิสว.ส. ทล.4 กก.2 บก.ทล.และกราบงามๆท่านพตอ.วชิรา ยาวไทสงค์ ผกก.2 บก. ทล.ที่เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างเยาวชนผู้ปกครองของเด็ก ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และพ่อค้าแม่ค้าที่ร่วมสนับสนุน ทั้งเงินและอาหาร หรือแม้แต่บุคลากรจากภายนอกอีกหลายท่านที่มาเป็นครูช่วยสอนวิชาต่าง ๆ จนกระทั่งมีการพัฒนาสถานที่รองรับเด็กได้มากขึ้นด้วยเงินบริจาคจากชุมชนทั้งภายในและภายนอกทั้งสิ้น ซึ่งได้ดำเนินการมาจนกระทั่งรุ่นล่าสุดคือรุ่นที่ 12 ตนได้นำเด็กไปสอบจำนวน 29 คน สามารถสอบได้ถึง 25 คน นี่คือพลังที่ตนได้รับ ซึ่งตนเองจะพูดกับน้อง ๆ เสมอว่า “ลุงหนองทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากลูก ๆ ผู้ปกครอง และทุก ๆ คน” จนปัจจุบันทางชมรมผู้ปกครองได้ร่วมกันเปิดบัญชีเป็นกองทุนสนับสนุนทับหลีติวเตอร์ เพื่อส่งเสริมเยาวชนให้ได้รับโอกาส ทั้งเรื่องค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสอบของเด็ก ๆ
“ผมมาจากครอบครัวยากจน ไม่เคยมีรองเท้าใส่ไปโรงเรียน สิ่งที่ผมขาดในวันนั้นเป็นแรงบันดาลใจ จนกระทั่งในวันนี้ผมมีความพร้อมส่วนหนึ่งที่จะร่วมกันสร้างเยาวชน สังคม ให้ดีขึ้น สิ่งที่ผมได้รับคือการได้เห็นแววตาของลูก ๆ ที่สอบได้ ได้เห็นแววตาของผู้ปก ครอง ที่สำคัญคือได้เห็นเยาวชนที่หลงผิดหรือสุ่มเสี่ยง กลับตัวกลับใจเข้ามาร่วมในเส้นทางนี้ ซึ่งถือว่าเป็น การให้โอกาส ถึงแม้ตัวเองจะต้องพลาดกับการที่ต้องไปอบรมเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายร้อยตำรวจตั้งแต่ปี 2562 ก็ตาม เพราะกำหนดการไปอบรมเพื่อเลื่อนชั้นมักจะตรงกับช่วงเวลาติวและสอนให้กับเด็ก ๆ พอดี ซึ่งผมมองว่าถ้าผมไปอบรมเลื่อนชั้นผมได้คนเดียว แต่ถ้าผมอยู่สอนอนาคตจะได้กันหลายคน เพราะเด็ก ๆ ที่เข้ามานั้นไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง ไม่ใช่เด็กไอคิวสูง ครอบครัวไม่มีความพร้อม ผมทิ้งพวกเขาไม่ได้แม้แต่วันเดียว ความผูกพันของเรามันเยอะเหมือนพ่อกับลูก ผมเองก็อยากจะประสบความสำเร็จแต่อยากเห็นลูก ๆ ประสบความสำเร็จมากกว่า ผมจึงเลือกที่จะอยู่สอนเด็ก ๆ ซึ่งรุ่นพี่ที่สอบได้และเข้ารับราชการไปก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน ยังคงส่งความช่วยเหลือและมอบโอกาสกลับมาให้กับรุ่นน้องรุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันเป็นความสุขของทุกคนที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งถึงวันนี้มีเด็ก ๆ ที่ได้รับโอกาสเข้ารับราชการตำรวจและสอบได้แล้วรวม 99 คน จากผู้ที่เข้ามาเรียนทั้งหมดราว 150 คน ซึ่งเป็นโอกาสที่เด็ก ๆ และผมบอกเสมอว่าอย่าลืมโอกาสที่เคยได้รับ จึงมีสำนึกของการได้รับ และอย่าลืมส่งต่อโอกาสให้รุ่นต่อไป” ด.ต.สนอง กล่าว

ส.ต.อ ศุภกิตติ์ อินทรบำรุง ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 กล่าวว่า ตนเองเป็นศิษย์ทับหลีติวเตอร์รุ่นที่ 6 ได้เข้ามาติวที่นี่ต่อจากพี่ชายที่เป็นรุ่นแรก และมีความผูกพันกับที่นี่มาก ซึ่งทุกครั้งก่อนที่รุ่นน้องจะไปสอบ ตนเองและรุ่นพี่คนอื่น ๆ จะผลัดกันมาติวให้กับน้อง ๆ กันโดยตลอด อีกทั้งยังคงให้การสนับสนุนเป็นเงินทุนและสิ่ง ของต่าง ๆ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ ที่จะก้าวเดินบนเส้นทางที่ดีต่อไปด้วย ซึ่งอยากจะขอบคุณลุงหนองที่ได้มองเห็นปัญหาของชุมชน ทำให้หลายคนได้รับโอกาสได้พัฒนา ได้เลี้ยงดูตัวเอง พ่อแม่ และครอบครัวได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือผู้บังคับบัญชา ชุมชน และรุ่นพี่ ๆ ที่ยังคอยให้ความช่วยเหลือและดูแลกันมาโดยตลอดด้วย
“ทับหลีติวเตอร์” สถาบันกวดวิชาที่เปิดโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส ที่สุ่มเสี่ยง หรือกำลังสับสนและกำลังเดินไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ได้เข้ามาเรียนรู้ปรับเปลี่ยนชีวิต และสอบเรียนต่อ รวมถึงเข้ารับราชการในเส้นทางของตำรวจ เป็นสถานที่ที่นอกจากจะให้ความรู้ด้านวิชาการแล้ว ที่นี่ ลุงหนองจะมุ่งเน้นให้ทุกคนเป็นตำรวจที่ดีในอนาคต เป็นผู้มีจิตอาสา เป็นตำรวจที่นั่งอยู่ในใจประชาชน เฉกเช่นที่ตนเองยอมเสียสละโอกาสความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน เพื่อมาทุ่มเทในการสร้างเด็กและเยาวชน ให้เป็นบุคลากรที่ดีในการรับใช้สังคม และที่นี่ “ทับหลีติวเตอร์” คือพื้นที่เล็ก ๆ ที่เป็นจุดบ่มเพาะ ต้นกล้าตำรวจน้ำดี ให้กับประเทศนี้ต่อไป.
Discussion about this post