สนธิกำลังตรวจยึดประดู่ท่อนกลางหมู่บ้านดอยติ้ว รอส่งนายทุน

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ภายใต้อำนวยการ พ.ต.ท.วิศิษฏ์ คำยา ผบ.ร้อย ตชด.325 , ร.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ ฟองคำ รอง ผบ.ร้อยฯ , พ.ต.ท.พิเชษฐ์ หมายดี ผบ.ร้อย ตชด.324 บ้านผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ด.ต.ภูวิวัฒน์ อุตพรหม พร้อมพวก , นายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ พร้อมด้วยนายชาตรี สัทธรรมนุวงค์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และนายภูมิทัศน์ แมดเมือง หน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.4 (ท่าวังผา)อำเภอท่าว้งผาจังหวัดน่าน , นายรณกฤต จักรเงิน เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานหัวหน้าอุทยานแห่งชาตินันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาตินันทบุรี , พ.ต.ท.จิตรภณ สมหมาย จนท.ศปทส.ตร. และร.ต.ต.สมชัย สุทธสม จนท.ศปทส.ภ.5 พร้อมพวกได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ท่อน จำนวน 12 ท่อน ปริมาตร 8.12 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 284,200 บาท ที่บริเวณที่ดินว่างเปล่า บ้านดอยติ้ว หมู่ที่ 7 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด

หลังจากที่ จนท.สนธิกำลังได้ร่วมกันออกตรวจการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ สืบทราบว่า ได้มีการนำไม้ประดู่ท่อนมาวางกองรวมกันอยู่ในบริเวณพื้นที่ว่างเปล่า หน้าโรงเรียนดอยติ้ว ท้องที่บ้านดอยติ้ว หมู๋ 7 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อรอจำหน่ายให้กับกลุ่มพ่อค้านายทุนจากต่างจังหวัด ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบด้วย เมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดอยติ้ว หมู่ที่ 7 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ตามที่สืบทราบ ก่อนถึงประตูทางเข้าโรงเรียนบ้านดอยติ้วประมาณ 10 เมตร ได้สังแกตเห็นมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ทางด้านขวาเมื่อมองจากถนนเข้าไปยังพื้นที่ว่างเปล่าดังกล่าวสังเกตเห็นกองไม้วางกองรวมกันอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวโดยมีผ้าตาข่ายสีดำปกคลุมอำพรางกองไม้ดังกล่าวอยู่ บริเวณด้านหน้าของพื้นที่ว่างเปล่าดังกล่าวมีการล้อมรั้วด้วยไม้ไผ่ จึงเข้าทำการตรวจสอบกองไว้ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบไม้กระยาเลยท่อนจำนวน 1 กอง เมื่อตรวจสอบชนิดไม้กระยาเลยท่อนดังกล่าวพบว่าเป็นชนิดไม้ประดู่ ท่อนดังกล่าวมีลักษณะ ไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเป็นเครื่องเรือน เครื่องใช้มาก่อน ตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับเพื่อเป็นการแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด ไม่มีรูปรอยดวงตราของรัฐบาลและไม่มีรูปรอยดวงตราของสวนป่าเอกชน แต่อย่างใด ตรวจนับจำนวนไม้ประดู่ท่อนทั้งหมดได้จำนวน 12 ท่อน ตรวจสอบพื้นที่จุดที่พบกองไม้ประดู่ท่อนวางกองรวมกันอยู่ พบว่ามีการล้อมรั้วด้วยไม้ไผ่ ในขณะทำการตรวจสอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุพอที่จะสอบถามได้ว่าพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวมีผู้ใดเป็นผู้ครอบครองอยู่ จึงได้ใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ ( GPS) ได้ค่าพิกัดที่ 47QPA 75705 12911 เมื่อนำค่าพิกัดลงในแผนที่อัตราส่วน 1 : 50,000 ปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด จึงได้ร่วมกันตรวจยึด/นับ วัดขนาด คำนวณปริมาตร ได้ไม้ประดู่ ท่อน จำนวน 12 ท่อน ปริมาตร 8.12 ลบ.ม. โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ ฟองคำ ผบ.มว.กก. ตชด.32 ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ร้อย ตชด.325 เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และ นายเอกราช รักษ์พงษ์ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ตรวจป่า และนายปรีชา มะลิซื่อ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาตินันทบุรี เป็นพยานในคดีโดยกล่าวหาว่า
ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต,มาตรา 69 ฐาน “มีไม้กระยาเลยหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตาลชุม เพื่อสืบสวน สอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับไม้ของกลางได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.4 (ท่าวังผา) นำไปเก็บรักษาตามระเบียบต่อไป