นายเอกสิทธิ์ รัตนสุวรรณประธานกลุ่ม ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่า อำนาจเจริญ เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากปี2564-2565 ได้มีขบวนการลักลอบตัดไม้ยางนาขนาดยักษ์มากกว่า1,000ต้นในเขตอำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ จุดสุดท้ายที่มีการตัดจำนวนมากชาวบ้านตาดำๆทนดูการกระทำของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ไหวเลยเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้นำในพื้นที่ บ้านบก ม.2ต.เสนางคนิม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ
โดยในวันที่4มีนาคม2565 มีการตัดไม้ยางนาและชักลากขนย้ายด้วยรถเทรลเลอร์ขนสดใหญ่ ไฟสว่างโล่งทั้งคืนลำเลียงขึ้นรถที่หน้าโรงเรียน หลังจากนั้นวันที่16มีนาคม2565ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.เสนางคนิคม ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอ.เสนางคนิม ถึงเวลานี้4-5เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าชาวบ้านบางส่วนที่ทนไม่ได้กับระบบตรวจสอบช้ามากได้ช่วยกันหาหลักฐาน จึงทราบว่าการซื้อขายไม้ส่วนใหญ่มีการโอนเงินและการเรียกรับสิ่งตอบแท่นในการขายไม้จากผู้นำจุดที่มีการตัดต้นสุดท้ายมีการโอนเงินเพื่อทำลายหลักฐานเศษไม้ปลายไม้แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะชาวบ้านไม่ยอมและมีการร้องเรียนหลักฐานทั้งหมดเจ้าหน้าที่รับทราบแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าจึงร้องเรียนไปยัง
1. สำนักนายกรัฐมนตรี 2.นายพีระ ทองโพธิ์หัวหน้าผู้ตรวจการสำนักนายกรัฐมนตรี 3.นายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร 4.นายชลนาน ศรีแก้วผู้นำฝ่ายค้านในสภา 5.ประธานกรรมาธิการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม 6.พตอ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสประธานกรรมาธิการปปช. 7.สส. ดะนัย มะหิพันธ์ สส.เขต2จ.อำนาจเจริญ 8.สื่อมวลชนประจำจังหวัดอำนาจเจริญ 9.เพจราชสีห์จิตอาสา10.กองทับภาคที่2ชึ่งได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ไปแล้วและตนเชื่อว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นระดับเจ้าพ่อมาพัวพันและยุโยงส่งเสริมให้ชาวบ้านเชื่อและทำตามโดยบอกว่าทางรัฐบาลปลดล็อดแล้วไม่ผิดแม้แต่ไม้ที่อยู่ติดลำห้วยก็สามารถตัดขายได้เลยชาวบ้านจึงหลงเชื่อและทำกันเป็นขบวนการครับและมีนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นและคนมีสีอยู่เบื้องหลังครับ
ทางด้านนายรุจนรัตน์ บุญสร้าง อายุ 45ปี อยู่ บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 14 บ้านบกตำบลเสนาอำเภอเสนางคนิคมจังหวัดึอำนาจเจริญ กล่าวว่า ต้นยางนาจำนวนมากที่โดนกลุ่มนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพลโค่นล้มในครั้งนี้เป็นจำนวนหลายร้อยหรืออาจถึงพันต้นเบนทีเดียว ซึ่งตนเกิดมาก็เห็นต้นยางเนาหล่านี้แล้วเป็นต้นยางขนาดใหญ่ 2-3 คนกอดยังไม่มิดอายุประมาณ 200-300 กว่าปีเป็นอย่างต่ำ ตนขอฝากถึงสื่อมวลชนต่างๆ ที่ทราบข่าวนี้ให้กระจายข่าวและตามหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ พวกชาวบ้านได้ร้องไปยังหน่วยราชการต่างๆไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนายอำเภอทางผู้กำกับการตำรวจและทางจังหวัดซึ่ง ไม่มีความคืบหน้าก็ยังไม่ไปถึงไหน ตนฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในย้านในเมืองส่วนเกี่ยวข้องให้ลงมาจัดการดูแลเรื่องนี้ด้วยเพราะว่าต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานานนับหลายร้อยปีแล้วมาโดนตัดทั้งคืนทึ้ววันนี้พวกชาวบ้านที่รักป่ารักต้นไม้รับไม่ได้ วอนถึงผู้มีอิทธิพลในบ้านในจเมือง อย่ารังแกกันอีกเลยเพราะชาวบ้านมีแต่มือเปล่า การที่มารังแกกันเช่นนี้ มันไม่ดีจะเป็นบาปอย่างมหันโดยเฉพาะตัดต้นไม้ขนาดใหญ่คู่ย้านคู่เมืองเกิดมาร่วมกันต้องถ่อยทีถ่อยอาศัยกันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขจะดีกว่า มีรังแกคนไม่มีทางสู้อย่าลืมนะว่าบาปบุญทีจริงใครทำอะไรไว้ก็จะได้ผลกรรมนั้นในไม่ช้า
ทางด้านผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่นำเสนอข่าวไปแล้วในครั้งแรกนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายวิชญุตม์ ทองแป้น นายอำเภอเสนางคนิคมจังหวัดอำนาจเจริญ ว่านายอำเภอได้เรียกชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาสอบปากคำค้นหาความจริง และรับปากผู้สื่อข่าวว่าหากผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูก หากสอบว่ามีมูลก็จะสั่งพัก ราชการ นักการเมืองท้องถิ่นทุกรายไว้ก่อน เพื่อให้การสอบสวนสืบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรมไม่มีใครไปข่มขู่พยานได้ ซึ่งทั้งนั้นและทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตนจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอเสนางคนิคมแห่งนี้ ส่วนทางด้าน ผกก พตอ.ทิพดล สำราญรื่น ผกก.สถานีตำรวจภูธรอำเภอเสนางคนิคม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนสืบสวนหาข้อเท็จจริง อย่างเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้ อีกไม่นาน คงได้ตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษถ้าอย่างแน่นอนตนจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูกไม่มีอิทธิพลใดๆมาบงการตนได้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับนายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ป่าไม้ อำเภอ ที่ดิน และตำรวจ เข้าไปดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้วครับหากผิดว่าไปตามผิดไม่ปล่อยให้ลอยนวล/
ทิพกร หวานอ่อน-ข่าว ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน
Discussion about this post