
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ณ สถานีตำรวจทางหลวงที่ 3 กองกำกับการ 4 ถนนมิตร ภาพ บ้านข้าวสาร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี พ.ต.ต.กฤษ สีหาบุญพัน สว.สทล.3 กก.4 , ร.ต.อ.ไกรแก้ว ขวัญน้อม รอง สว.(ป) กก.3บก.ปทส. นายธวัชชัย นันทะแสน ผอ.ส่วนอนุรักษ์รักษาป่า สำนักอนุรักษ์ 10 อุดรธานี และนายสุข วาลา เจ้าหน้าที่ตรวจป่าสนับสนุนป้องกันปราปราม สปป.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันทำ การจับกุม 1.นายสุทัศน์ ภูสำเภา อายุ 41 ปี 2.น.ส.พรพิมล เจริญทอง อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ขบวนการลักลอบขนย้ายลิงแสม ส่งข้ามแม่น้ำโขงไปขายประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมของกลางรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว เป็นรถนำหน้ารถขนลิงแสม และนายสุวิจักขณ์ สร้อยเกษตร อายุ 45 ปี คนขับรถปิกอัพ อีซูซุ สีบรอนซ์ที่บรรทุกลิงแสม 50 ตัว บรรจุในถุงตาข่าย และใส่ลังขนย้ายสัตว์ 6 ลัง ตัวเมีย 33 ตัว ตัวผู้ 17 ตัว ในห้องปรับอากาศหลังกระบะ
ร.ต.อ.กนกพล ดวงทาทอน รอง สว.สทล.3 กก.4 เปิดเผยว่า พ.ต.ต.กฤษ สีหาบุญพัน สว.สทล .3 กก.4 ได้สั่งการให้ติดตามตรวจสอบรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด คันดังกล่าว ที่หลายหน่วยงานราย งานว่า อาจจะขนของผิดกฎหมายผ่านสถานีฯ เพื่อมุ่งหน้าไปยังชายแดนริมน้ำโขง จนกระทั่งเวลา 16.00 น. รถคันดังกล่าวที่รับแจ้งผ่านมาจึงได้เรียกตรวจ พบนายสุทัศน์ฯขับขี่มาพร้อมภรรยา การสอบสวนให้การมีพิรุธ จึงเชิญตัวลงจากรถมาสอบปากคำแล้วขยายผลมาจับกุมคนขับรถอีซูซุที่ใช้ขนลิงแสม 50 ตัวที่ปั๊มน้ำมัน จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาที่สถานีตำรวจทางหลวงฯ
นายสุทัศน์ ภูสำเภา ผู้ต้องหา ให้ การว่า ตนเอาลิงแสมมาจาก จ.นครสวรรค์ ซื้อมาจากชาวบ้านตัวละ 800 บาท ซื้อมาทั้งหมด 50 ตัว ตนจะเอาไปส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยตนจะได้ค่าไปส่งลิงแสมตัวละ 1,800 บาท ซึ่งตนทำมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งแรกตนเอามา 20 กว่าตัว ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ครั้งละ 50 ตัวแล้วจะนำเอาไปส่งบริเวณทาลงเรือแล้วจะมีคนมารับเป็นชาวลาวไปต่ออีก โดยประเทศเพื่อนบ้านซื้อจะเอาไปทำวิจัยเกี่ยวกับทด ลองวัคซีนส่วนใหญ่ให้ซื้อมาแต่ตัวเมีย ซึ่งในการไปซื้อลิงแสมตนก็จะตระเวนสอบถามซื้อกับชาวบ้านมา เพราะลิงแสมพวกนี้จะไปรบ กวนสวนไร่ของชาวบ้านเลยจับมาขาย ซึ่งตนจ้างนายสุวิจักขณ์ฯ เป็นคนขับรถขนลิงให้เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท หลังจากเสร็จงานก็จะจ่ายเงินให้ ซึ่งรถทั้งสองคันเป็นของตนที่นำมาส่งลิงให้กับลูกค้าเหมือนจะเป็นคนลาวที่มารับซื้อ ซึ่งตนมาส่งทิ้งไว้แค่ฝั่งไทย แต่ส่วนปลายทางนั้นก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหนบาง เมื่อก่อนตนเลี้ยงหมูแล้วกิจการไปไม่รอด ทำให้เป็นหนี้จำนวนมากด้วยเลยหันมาทำรับจ้างขนลิงแสมให้กับชาวลาวที่ติดต่อมาเอาไปทำวัคซีน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าไปทำวัคซีนอะไร เพราะเขาไม่ได้บอกอะไรมากให้มาส่งที่ฝั่งแล้วก็กลับ

นายธวัชชัย นันทะแสน ผอ.ส่วนอนุรักษ์รักษาป่า สำนักอนุรักษ์ 10 อุดรธานี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการจับกุม “ตัวนิ่ม” ลักลอบข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านเอาทำยา แต่ไม่รู้เอาไปทำยาอะไร ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการจับกุม “ลิงแสม” เบื้องต้นไม่มีข้อมูลว่าประเทศเพื่อนบ้านนั้นซื้อขายในราคาเท่าไหร่ ซึ่งจะเป็นไปตามที่ผู้ต้องหาบอกหรือไม่ เนื่องจาก “ลิงแสม” เป็นสัตว์คุ้มครอง การจะครอบครองหรือขนย้ายจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จึงมีความผิดครอบครองสัตว์ป่าคุ้ม ครองไม่ได้รับอนุญาต “ปกติในภาคอีสานจะมีลิงกัง และลิงวอก ลิงแสมไม่ใช่ลิงในถิ่นนี้ จะเป็นลิงที่อยู่ใกล้แถบชายทะเล การลัก ลอบขนลิงข้ามพื้นที่ จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องโรคฝีดาษลิงที่มีคำสั่งไปทั่วประ เทศแล้ว นอกจากการดำเนินคดีมีแผนในการจัดการในครั้งนี้ ด้วยการประสานไปยังสถานเพาะเลี้ยงที่ใกล้ที่สุดใน อ.ภูผาม่าน จ.ขอน แก่น เพื่อรับลิงแสมทั้งหมดไปคัดกรอง ตามกระบวนการเฝ้าระวัง ซึ่งสถานเพาะเลี้ยงได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว”.
Discussion about this post