
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมต่อเนื่องวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เจ้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกับเจ้าที่ ตชด.32 เจ้าหน้าที่ป่าไม้สายตรวจป่าไม้และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการลักลอบทำไม้ประดู่เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศตามที่ได้สืบสวนทราบว่า มีการสั่งการให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านบ่อหอยเข้าไปทำไม้ประดู่ออกจากป่าแม่สอง เขตติดต่อระหว่างบ้านบ่อหอย อำเภอเวียงสาจังหวัดน่าน ติดต่อกับป่าตำบลเตาปูน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 13:00 น ก็ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่า มีกลุ่มชายบ้านบ่อหอย ได้นำรถยนต์ ปิคอัพยี่ห้อ Toyota สีขาวทะเบียน 3585 ลำพูน เข้าไปทำไม้ในเขตป่าเส้นทางแยกป่าคาเลี้ยวซ้าย หลังจากรับแจ้งจึงได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วโดยใช้จักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน เคลื่อนที่ล่วงหน้ามุ่งตรงไปก่อนและชุดอื่นๆใช้รถยนต์ขับติดตามไปร่วมปฏิบัติเมื่อไปถึงบริเวณเส้นทางเข้าป่าแยกป่าคาเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร พบกับเส้นทางทำขึ้นมาใหม่แยกเข้าไปแล้วได้ยิน เสียงรถยนต์อยู่ภายในคณะเจ้าหน้าที่จึงขับรถเร่งเข้าไป แต่เส้นทางยากลำบากเมื่อขับเข้าได้ประมาณ 200 เมตร ก็พบรถยนต์ปิคอัพตามที่รับแจ้งจอดปิดขวางเส้นทางอยู่หันหน้าออกจากป่า จึงเข้าไปตรวจสอบพบรถปิคอัพปิดประตูทั้ง 2 ด้าน เครื่องยนต์ดับและมีร่องรอยเหมือนลักษณะคนวิ่งผ่านต้นไม้ต้นหญ้าขนาดเล็กเข้าไปในป่า จนท.ตามไปแล้วไม่พบเพราะป่าพื้นที่กว้าง จึงตรวจสอบรถไม่พบกุญแจปรากฏว่าห้องเครื่องยนต์ ยังร้อนจัดลักษณะเหมือนเพิ่งดับเครื่องยนต์ลง ตรวจสอบบริเวณท้ายกระบะพบเศษไม้ซึ่งเชื่อว่าเป็นเศษไม้ที่ถูกยกใส่กระบะแล้วทำให้หลุดร่อนลงตามล้อรถยนต์ไปตามเส้นทางเข้าป่าพบไม้ท่อนซึ่งเป็นไม้ประดู่ ถูกตัดทอน 2 หัวท้าย มีเชือกมัดอยู่จำนวน 1 ท่อน ลักษณะเหมือนถูกลากถู มีเศษชิ้นส่วนหลุดร่อนออกไป เดินตามรอยล้อรถยนต์เข้าไปภายในอีกเล็กน้อยพบไม้ที่ทำเป็นเสาตั้งขึ้นและมีคานด้านบน มีเชือกมัดสำหรับมัดไม้ท่อนยกชักรอกขึ้นเพื่อนำขึ้นรถยนต์และมีร่องรอยรถยนต์ต่อลงไปจากบริเวณดังกล่าวซึ่งลงไปยังลำห้วยอีกประมาณ 30 เมตร พบรอยลากถูซึ่งลักษณะเป็นรอยการชักลากไม้ขึ้นจากลำห้วยขึ้นมายังบริเวณจุดที่พบเสากระโดงสำหรับทำรอกยกไม้ขึ้นใส่รถ หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงได้มีหญิงเป็นชาวเขาอายุประมาณ 50-60 ปี มาพบเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มกันที่อยู่ด้านนอกประมาณ 500 เมตร เข้ามาแจ้งว่า เป็นมารดาของเจ้าของรถปิคอัพดังกล่าวบุตรชายได้นำรถมาทำชักลากไม้แต่เมื่อจนท.ไม่พบไม้บนรถจึงขอรถคันดังกล่าวพร้อมกับยื่นเสนอสินน้ำใจให้เป็นเงิน 10,000 บาท คณะเจ้าหน้าที่จริงพูดจาแล้วบอกให้หญิงคนดังกล่าวออกจากบริเวณดังกล่าวไป
ต่อมาเวลา 17:00 น ของวันเดียวกันได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-7 คนและหญิงซึ่งเป็นบุคคลเดียวกับที่ไปขอเจ้าหน้าที่ชุดแรกมาพบเจ้าได้ที่อีกชุดหนึ่งที่อยู่ตรงทางแยกจะเลี้ยวเข้าเส้นทางเข้าป่าด้านนอก ที่เรียกว่าจุดแยกเนินป่าคาหญิงดังกล่าวอ้างกับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวว่ามาตามหาบุตรชายบุตรชายเข้าไปล่าสัตว์ 2 วันแล้วยังไม่กลับโดยใช้ปิคอัพที่จอดอยู่ด้านในเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงแจ้งกับหญิงดังกล่าวว่ารถดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการ
กระทำผิดชักลากไม้เจ้าที่ทำการตรวจยึดแล้วขอให้เอากุญแจให้เจ้าหน้าที่ถ้าไม่ให้เจ้าที่ต้องทำการงัดรถคันดังกล่าวนำไปยังที่ทำการพนักงานสอบสวน หญิงคนดังกล่าวได้มอบกุญแจรถให้กับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเจ้าได้ที่จึงได้แจ้งให้กลุ่มวัยรุ่นและหญิงดังกล่าวออกจากพื้นที่ป่าไปเนื่องจากเป็นเวลาค่ำมืดแล้วหลังจากนั้นคณะเจ้าหนี้จึงได้นำรถยนต์ออกจากป่าในคืนวันเดียวกันเนื่องจากเป็นป่าลึกเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย

ต่อมาเช้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 คณะเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการนำไม้ของกลางที่ตรวจพบออกจากพื้นที่ป่าจัดทำบันทึกรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ โดย กล่าวหาว่า ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีไม้กระยาเลอันยังมิได้แปรรูป(ประดู่ท่อน)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับเส้นทางเข้าป่าเป็นเส้นทางที่ยากลำบากห่างจากหมู่บ้านระยะประมาณ 20 กม.ใช้ระยะเวลานานกว่าจะถึงจุดที่ทำไม้ จนท.เชื่อว่ามีบุคคลโทรแจ้งให้กลุ่มทำไม้ให้ทราบจึงยกไม้ลงจากรถแล้วกำลังจะขับรถหลบหนี แต่เป็นเส้นทางเดียวที่ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้จึงขับรถออกมาพบกับเจ้าหน้าที่และจอดรถทิ้งไว้หลบหนีเข้าป่าไปซึ่งบริเวณจุดที่พบรถและไม่มีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์สามารถโทรติดต่อกันได้ตรวจสอบหลักฐานการครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว พบผู้ครอบครองเป็นราษฎรบ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน
@@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post