สุราษฎร์ธานี – ร่วมกับ RSPO และภาคีพันธมิตร ลงนาม MOU หวังยกระดับสู่ต้นแบบเมืองปาล์มน้ำมันยั่งยืน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ อาคารศูนย์ประชุมนานาชาติอุบลรัตนราชกัญญา สหกรณ์สุราษฎร์ ธานี จำกัด (โคออฟ) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาล์มเม็ค ไทยแลนด์ 2022 ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือในการยกระดับสุราษฎร์ธานีสู่เมืองปาล์มน้ำมันยั่งยืน เพื่อเป็นต้นแบบการจัดการเมืองปาล์มน้ำมันยั่งยืนของประเทศไทย นำโดย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ มิสเตอร์โจเซฟ เดอ ครูช ประธานกรรมการบริหาร RSPO พร้อมด้วยสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน สภาอุตสาห กรรม หอการค้า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และมหา วิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเ ขตสุราษฎร์ธานี ร่วมลงนาม

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตปาล์มน้ำมันอันดับ 3 ของโลก ซึ่งมีพื้นที่ปลูก 4.5 ล้านไร่ รองจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยกว่าร้อยละ 70 ผู้ผลิตปาล์มน้ำมันของไทยเป็นเกษตรกรรายย่อย ซึ่งพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ โดย สุราษฎร์ธานี นับเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกปาล์ม มากที่สุดในประเทศ และเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO จำนวนกว่า 1 แสนไร่ คิดเป็นร้อยละ 8 ของพื้นที่ปลูกปาล์มทั้งหมดในจังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบเมืองปาล์มน้ำมันยั่งยืนของประเทศไทย

ทั้งนี้ พันธมิตรเกษตรกรรายย่อย RSPO ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่มีมากกว่า 4 พันคน รวมกว่า 30 กลุ่ม อาทิสหกรณ์นิคมพนม วิสาหกิจชุมชนตาปี-อิปัน ผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน กลุ่มวิสาห กิจชุมชนไทรขึง – บางสวรรค์ ฯลฯ นับเป็นแบบอย่างสำหรับเกษตรกรรายย่อย เช่น การนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด การลดต้นทุนการผลิต ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและความมุ่งมั่นในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายให้ สุราษฎร์ธานี เป็นต้นแบบเมืองปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืนของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระ บวนการผลิตน้ำมันปาล์ม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆในจังหวัดเพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและการผลิตน้ำมันปาล์มในอนาคต.