เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นางสาว บุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ , นายรัตนะ สวามีชัย เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ , นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ นายธีระทัศน์ รังสิวรโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท คอลลาบอเรชั่น จำกัด พร้อมคณะ เดินทางไปที่บ้านดูลาเปอร์ ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลา น้อย จ.แม่ฮ่องสอน พบปะกับเกษตรการผู้ผลิตกาแฟ อาราบิก้า กาแฟเกรดฟรีเมี่ยม ชูสินค้าศักย ภาพในพื้นที่ พร้อมช่วยหาตลาดและชี้ช่องโอกาสใช้ประโยชน์จาก FTA ส่งออกไปตลาดการค้าเสรี โดยจะเป็นการยกระดับการผลิตสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานในระดับประเทศและระดับโลก และส่งผลให้เกษตรกรมีสินค้าทางการเกษตร ที่ดีขึ้นและเป็นสากล
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ บ้านดูลาเปอร์ ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกาแฟเกรดฟรีเมี่ยม โดยทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้มีการเปิดเสรีทางการค้ากับต่างประ เทศจำนวน 18 ประเทศ โดยลดภาษีเป็น 0 ทำให้ไทยสามารถส่งกาแฟไปยังประเทศต่าง ๆ สำหรับกาแฟที่บ้านดูลาเปอร์ ถึงแม้ว่าจะมีเกรดสูง แต่ยังคงประสบปัญหาการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้อง การของตลาด ซึ่งกรมได้นำวิทยา กรมาให้คำแนะนำเรื่องการใช้ประ โยชน์จาก FTA กฎระเบียบทาง การค้า อัตราภาษีศุลกากร กล ยุทธ์การทำตลาด การเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภค การขยายช่องทางจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และที่สำคัญคือแนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของจัง หวัดแม่ฮ่องสอนทั้งการสร้างเรื่องราว กระบวนการผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานรับรอง การใช้นวัตกรรมสร้างความแตกต่างของสินค้าเพื่อให้จำหน่ายสินค้าในราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในการนำข้อมูลไปพัฒนาผลิต ภัณฑ์ต่อไป
นายกิจชยานันท์ ชมสนุก เกตรกรผู้ผลิตกาแฟ บ้านดูลาเปอร์ ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอนเปิดเผยว่า กาแฟที่ผลิตได้ในพื้นที่ บ้านดูลาเปอร์ เป็นกาแฟพิเศษ จากการดูแลการปลูกที่เป็นธรรม ชาติบนชั้นความสูงเหนือระดับน้ำทะเลที่ 1,200 เมตร การผลิตที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดและเคยได้แชมป์ระดับประเทศมาแล้ว เน้นการผลิตวัตถุดิบส่งให้กับโรงคั่ว ตอนนี้เราเน้นการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมการปลูกกาแฟในพื้นที่อื่น ๆ ให้มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งกาแฟของแม่ฮ่อง สอนปัจจุบันเป็นที่นิยมของนักดื่มกาแฟทั่วประเทศ
สำหรับแหล่งผลิตกาแฟบ้านดูลาเปอร์ ฯ ในแต่ละปีมีกำลังผลิตปีละประมาณ 12,000 กก. โดยส่งให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างประเทศที่จำหน่ายกาแฟชื่อดังก้องโลก ปีละ 5 ตัน และผลิตส่งโครงการหลวง ปีละ 7 ตัน โดยมีราคา กก.ละ 125 บาท ซึ่งเป็นราคากาแฟกะเทาะเปลือก แต่หากนำไปผลิตเป็นกาแฟเพื่อดื่มจะมีมูลค่าสูงลิ่ว.
Discussion about this post