
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวราย งานตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บริเวณชายหาดบ้านบางเก่า ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้มีประชาชนทั้งลูกเด็กเล็กแดงจำนวนมากต่างนำอุปกรณ์จับสัตว์น้ำเช่น อวน แห สวิง ลงจับสัตว์ทะเลจำนวนมากที่ลอยแพขึ้นหาย ใจเต็มทะเลจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “น้ำเปลี่ยนสี” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “น้ำเบียด-น้ำกัน” กันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศครึ้มฝนไปจนถึงชายหาดปึกเตียน อ.ท่ายาง เพชรบุรี ระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร แต่ครั้งนี้มีสัตว์ทะเลไม่มากนักเนื่องจากน้ำทะเลหนุน โดยมีนักท่องเที่ยวยืนถ่ายภาพเก็บไว้ดูด้วยความสนใน ซึ่งชาวบ้านแต่ละรายสามารถจับปลานำไปขายในกิโลกรัมละ 50-80 บาท กุ้งกิโลละ 250-350 บาท ส่วนปลาแป้นที่ได้จำนวนมากและไม่นิยมนำไปรับทานก็จะนำไปขายให้เป็นอาหารสัตว์ในราคากิโลกรัมละ 3-4 บาท สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีชาวประมงพื้นบ้านต่างนำเรือประมงขนาดเล็กแล่นออกไปในทะเลบริเวณชายฝั่งนำอวนตาข่ายลงไปลากปลาเข้าฝั่ง ได้มาตั้งแต่ 50-100 กิโลกรัม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลากดทะเล ปูม้า กุ้งลายเสือ ปลาอกกะแร้ ปลาจวด ปลาแป้น และปลาชนิดอื่นๆเป็นจำนวนมาก
นายอำนวย นิลเถื่อน สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลหาดเจ้าสำราญ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์น้ำเบียดไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย 1 ปี อาจจะเกิด 1-2 ครั้ง เนื่องจากพื้นที่มีฝนตกลงมามาก ส่งผลให้น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนที่น้อยลง สัตว์ทะเลจึงลอยขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ และหลังจากนี้หากไม่มีฝนตกต่อเนื่องสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสัตว์ทะเลที่นำไปบริโภคชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใดๆ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติเกิดขึ้นทุกปี และควรระมัดระวังโดยเฉพาะปลาทะเลที่มีเงี้ยงแหลมคม เช่น ปลากระเบนตุ๊กตา ปลาดุกทะเล ซึ่งมีครีบและหนามที่แหลม คม ขอให้ใส่รองเท้าผ้าใบพื้นหนาๆ อย่าเดินเท้าเปล่าลงทะเลเพื่อหาปลาอาจถูกเงี่ยงปลาทิ่มเท้าได้รับบาดเจ็บโดยเฉพาะเด็กๆต้องระมัดระวังให้มาก.
Discussion about this post