นครปฐมสืบสามควายเผือกตามรวบแก๊งขี้ยาขับรถตระเวณจี้ชิงทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 4 ต.ค.65 เวลา 13.00 น.ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต. บุญญฤทธิ์ รอดมารอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม สั่งการให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม(มค./สส.) ประชุมติดตามเร่งรัดขยายผลคดีชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 03.00 น.ในพื้นที่ สภ.สามควายเผือก โดยมี พ.ต.ท.ณรงค์ แก้วศรี รอง ผกก.สส.สภ.สามควายเผือก พ.ต.ท.อติชาติ ปิสาวงษ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.สามควายเผือก พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ รัตนพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.สามควายเผือก ร.ต.อ.นที พงศ์หาญพาณิชย์ รอง สว.สส.สภ.สามควายเผือก เข้าร่วมประชุม

พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก. ภ.จว.นครปฐม(มค./สส.) กล่าวในที่ประชุม โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนดำเนินการจัดกำลังเฝ้าตัว นายจรูญวิทย์ เฟื่องขจร ผู้ต้องหาที่หลบหนี/สามารถจับกุมได้ทันทีเมื่อศาลอนุมัติหมายจับ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการขอหมายจับภายในวันนี้ และกรณีศาลอนุมัติหมายจับให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบทันที โดยมอบหมาย บ้านเผือก 3 บ้านเผือก 4 ควบคุมและกำชับให้เป็นไปตามข้อสั่งการโดยเคร่งครัดและให้ยึดหลักการทำงานด้านการสืบสวนของ ผบช. ภ.7 “ กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก ” ณ สภ.สามควายเผือก จว.นครปฐม

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 4 ต.ค.65 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวนายจรูญวิทย์ เฟื่องขจร อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.9 ต.นครปฐม อ.นครปฐม จว.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.357/ 2565 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2565 พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาดจำนวน 1กระบอก โดยกล่าวหาว่า”ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนและใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด”

ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบ คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2565 เวลาประมาณ 03.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามควายเผือกได้รับแจ้งจาก น.ส.อรวรรณ ประสพสินธุ์ อายุ 32 ปี ว่าตนได้ถูกคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่บริเวณถนนข้างกรมสัตว์ โดยขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะกลับบ้านมาตามถนนริมทางรถไฟข้างกรมการสัตว์ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน ได้ขับรถยนต์กระบะปาดหน้าให้รถหยุดและลงมาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เอากระเป๋าสะพายของตนไป ซึ่งภายในกระเป๋ามีทรัพย์สิน โทรศัพท์ มือถือและเงินสดแล้วขับหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งได้ภาพและลักษณะรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลาประ มาณ 14.00 น.ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจออกตรวจพื้นที่บริเวณ ถนนสายตาก้อง-มาบแค พบรถยนต์กระบะมิซูบิชิ ไททั่น สีบรอนด์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง มีท่าทางพิรุธ และมีลักษณะตรงกับรถคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ในเขต สภ.สามควายเผือก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงขับรถไล่ติดตามและเรียกให้หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด จนรถคันดังกล่าวขับมาจอดที่บ้านเช่าเลขที่ 105 ม.10 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าไปควบคุมตัวนาย สมชาย รองทรัพย์อายุ 39 ปีอยู่บ้านเลขที่ 1094/11 ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสา คร คนขับขี่ และ นายธีรเดช สามเรืองศรี นั่งโดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอทำการตรวจค้นตัว

จากการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงโน้ต 9 สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 1,500 บาท นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด.380 จำนวน 5 นัด แม๊กซีน จำนวน 1 อัน ประกับปืนจำนวน 1 คู่ อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างที่นายสมชาย สะพายอยู่ โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการชิงทรัพย์จริงและ รถยนต์กระบะยี่ห้อมิซูบิชิ ไททั่น สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ผต 7207 นครปฐม จำนวน 1 คัน เสื้อผ้าผู้ต้องหาที่ใส่ในวันก่อเหตุ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด และจากการสังเกตท่าทางของนายสมชาย และนายธีรเดช มีลักษณะคล้ายคนเสพยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบว่าผลเป็นบวก จากนั้นได้นำตัวอย่างปัสสาวะส่งให้แพทย์โรงพยาบาลนครปฐมตรวจหาสารเสพติด ซึ่งแพทย์ยืนยัน พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน ในปัสสาวะของผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบ คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.