
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.วันที่ 16 ต.ค.นี้ ร.ต.อ.นนทวัฒน์ รามหนู รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าพะยอม พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภจ.ว.พัทลุง พ.ต.อ.ภาคิน ณ.ระนอง รอง ผบก.ฯพ. พ.ต.ยศวรรษย์กระจ่างวงค์ ผกก.(สส.) ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์เเก้วสว.กก.ตชด.11 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง สืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ชุด ฉก.เสือดำ หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง นายตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุชานคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงช่มขู่ชาวบ้าน จนถูกชาวบ้านยิงปืนใส่จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์ตราโล่ที่เข้าระงับเหตุหลังจากที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแล้วจับหลบหนีไป โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าร้านค้าบ้านเลขที่ 237 หมู่ที่ 8 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์ตราโล่ไปรับเพื่อนรุ่นน้องและบุตรสาววัย 13 ปี หลบหนีไป จนรถคราโล่ของตำรวจไปพุ่งชนเสาไฟฟ้าและ ตร.สามารถจับชายดังกล่าวในเวลาต่อมา ทราบชื่อว่าชายคลุ้มคลั่งคนดังกล่าว คือ นายเกริกพันธ์ กาญจนพันธ์ อายุ 50 ปี เป็นราษฎร หมู่ที่ 8 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม
จากกการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายเกริกพันธ์ฯมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนบางครั้งเกิดประสาทหลอน ก่อนเกิดเหตุได้นำอาวุธปืนขนาด .38 ไปยิงข่มขู่ชาวบ้าน จนถูกชาวบ้านยิงใส่เข้าที่ขาจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ ตร.สภ.ป่าพะยอม เข้าระงับเหตุร้าย และกำลังรอตำรวจชุดสวาท ภ.จว.พัทลุง เข้ามาเสริมกำลัง นายเกริกพันธ์ฯก็ได้ใช้อาวุธปืนเข้าแย่งรถตราโล่ของตำรวจ สภ.ป่าพะยอม ขับรถหนีออกจากที่เกิดเหตุ ต่อมานายเกริกพันธ์ฯได้ขับรถตราโล่มาจี้บังคับนายสิทธิพร ปิ่นแก้ว อายุ 27 ปี เพื่อเป็นตัวประกันในการหลบหนี จากนั้นได้ขับรถมารับบุตรสาวอายุ 13 ปี เป็นตัวประกันในการหลบหนีเพื่อป้องกันการไล่ล่าและป้องกันการถูกยิงจากตำรวจ
แต่อย่างไรก็ตามตำรวจก็ได้ออกไล่ล่านายเกริกพันธ์ฯอย่างกระชั้นชิดไปตามเส้นทางถนนสายหนองเรือ-ลานข่อย ต่อมาเมื่อรถตราโล่ที่ผู้ต้องหาขับหลบหนีมาถึงท้องที่ ม.6 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร รถตราโล่ก็ได้เสียหลักไปพุ่งชนราวเหล็กริมทางได้รับความเสียหาย ไม่สามรถขับต่อไปได้ นายเกริกพันธ์ฯได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้นายสิทธิพรฯขับหลบหนีไปอีก แต่นายสิทธิพรฯไม่ยอมขับหลบหนี จึงถูกนายเกริกพันธ์ฯใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 2 นัด ในขณะที่นายเกริกพันธ์ฯได้ลากตัวบุตรสาวเข้าไปซ่อนตัวในบ้านญาติรายหนึ่ง ในบ้านเลขที่ 301/1 ม.6 ต.ป่าพะยอม ใกล้จุดเกิดเหตุรถยนต์ตราโล่พุ่งชนราวเหล็กริมทาง ก่อนถูกตำรวจนำกำลังเข้าปิดล้อมและถูกจับตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ในการก่อเหตุ และถูกนำร่างส่งรักษาตัวใน ร.ป่าพะยอม ในส่วนของนายสิทธิพรฯที่ถูกยิงสาหัสนั้น ทาง รพ.ป่าพะยอม ได้นำร่างส่ง รพ.พัทลุงในเวลาต่อมา ในขณะนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย
ในขณะที่ภรรยาผู้กอเหตุ ระบุว่าสามีของตนขาดยามีอาการหลอนมาแล้ว 2 วัน โดยตนเองไม่กล้าอยู่บ้านด้วย ได้หลบๆซ่อน กลัวจะถูกทำร้าย โดยสามีจะมีอาการหลายอารมณ์ คุ้มดีคุ้มร้าย และทำร้ายร่างกาย โดยก่อนหน้านี้สามีเสพยาบ้า แล้วได้หยุด ก่อนบำบัด แล้วกลับมาบ้าน เมื่อเดือนกันยายน 65 ยาหมด และไม่ได้รับยาต่อเนื่องทำให้สามีมีสภาพจิตหลอน และชอบพกปืน จนทำให้ตัวเองกลัว
ทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภจ.ว.พัทลุง เผยว่า นายเกริกพันธ์ฯ เป็น 1 ในจำนวน 264 คน ที่ถูกขึ้นบัญชีผู้ที่มีอาการคลุ่มคลั่ง จิตหลอน ซึ่งบุคคลทั้ง 264 รายดังกล่าวนี้อยู่ในขั้นตอนการตรสจสอบการมีและใช้อาวุธปืนที่ได้รับการอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งบุคคลเหล่านี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเพิกถอนใบอนุญาตการมีและใช้อาวุธปืน ในส่วนของนายเกริกพันธ์ฯนั้น ก่อนเกิดเหตุมีอาการเพี้ยนและคลุ่มคลั่ง ควบคุมตนเองไม่ได้ และได้นำอาวุธปืนไปข่มขู่ ชาวบ้านและยิงใส่ชาวบ้านจนชาวบ้านแจ้งให้ตำรวจเข้าระงับเหตุ และถูกชาวบ้านรายหนึ่งยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ใช้รถตราโล่ของตำรวจในการหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุจนถูก ตร.ไล่ล่าจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
Discussion about this post