
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่แปลงนาของนายชีพ นางนางเป็ง และแปลงนาของ นายทุนปลาละ เจ้าของที่แปลงนา บ้านท่าควาย หมู่ที่ 3 ตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ชาวนาเกือบ 70 คน ร่วมลงแขกเก็บผลิตข้าว เพื่อนำไปเก็บไว้ที่ยุ้งสาง ชาวบ้านในพื้นที่ เกือบ 100 คน ต่างช่วยกันลงแขก ขนต้นข้าว ที่ตากไว้กลางทุ่งนา หลังจากข้าวที่เกี่ยวแล้ว ได้ตากไว้ จนแห้งไม่มีความชื้น ได้ช่วยกันลงแขกขนข้าวไปกองตามจุดต่างๆ เพื่อนำรถ มานวดข้าว นำไปเก็บยังยุ้งสาง โดยร่วมกันลงแขกหมุนเวียนไปหลายตามแปลงนา ของเจ้าของนาในหมู่บ้าน พร้อมกับเตรียมพื้นที่ในการเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ที่มีอายุ 2- 3 เดือน พร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิต ตามนโยบายของรัฐบาล หลังจากกรมชลประทาน ได้ประกาศให้เกษตรกร ให้ลดการปลูกข้าวนาเลย และทำการปลูกพืชอายุน้อยอย่างอื่นทดแทน เพื่อการประหยัดน้ำ ในการทำเกษตรกรรม ด้านการเกษตร ที่สามารถสร้างรายได้ ให้กับครอบครัว
ซึ่งชาวนาส่วนมาก จะทำการปลูกข้าว พันธุ์ข้าวเหนียว และข้าวจ้าว ที่นำมาปลูก คือ ข้าวเหน่ยวพันธุ์ กข.10 และกข.6 และจะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว เพื่อเก็บไว้ยุ้งสาง ไว้ใช้ในการบริโภคในครัวเรือน หากว่าข้าวมีราคา ก็จะนำออกมาจำหน่าย เพื่อใช้ในการชื้อเมล็ดพันธุ์การปลูกพืพต่างๆ ส่วนการปลูกพืชหลังนา ก็จะรวมกลุ่มกัน เหมือนทุกๆปี คือ การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อาทิ ปลูกผักสวนครัว ต่างๆ ที่เป็นพืชที่ให้ผลผลิตเร็ว และอายุสั้น พร้อมจะเก็บเกี่ยวนำไปขายได้ เช่น ผักกาด ผักชี ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง ขน้า เป็นต้น เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และดูแลง่าย โดยทำตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ ซึ่งทำให้ไม่เหนื่อยในการใช้แรงงาน
ทางด้าน นายทุนปลาละ เจ้าของที่แปลงนา ได้กล่าวว่า หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จแล้ว ได้ทำการปลูกพืชหลังนา อาที่ ทำไร่ยาสูบ การปลูกข้าวโพดหวาน และปลูกหอมแดง กระเทียม พริก มะเขือ และพืชผักสวนครัว ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ตามนโยบาย ของรัฐบาล เนื่องจากปีที่ผ่านมา ได้ทำการปลูกพืชตามที่ตลาด มีความต้องการ แต่ผลผลิตไม่ค่อยดี อีกอย่างฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ขาดทุน ซึ่งในปีนี้ ได้ทำการปลูกข้าวโพดหวาน และข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และบริษัทได้มารับซื้อ ยังที่แปลงนา ของตนเอง โดยหมุนเวียนกันปลูก ตามที่ตลาดมีความต้องการ โดยไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น
@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร. 0848084888
Discussion about this post