
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีนายเกริกพันธ์ กาญชนะพันธ์ อายุ 50 ปี ซึ่งมีอาการคลั่งยา ควบคุมสติไม่ได้ ใช้ จยย.ฮอนด้า สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดผ่านป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนมาข่มขู่คู่อริ ยิงปืนขึ้นฟ้า และยิงใส่ร้านค้า ซึ่งมีคนอยู่ในร้านค้าหลายคน จนมีการยิงปะทะกันจนถูกคู่อริใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่ขาจนได้รับบาดเจ็บ และใช้รถยนต์ตราโล่ของตำรวจ สภ.ป่าพะยอม ขับหลบหนี ไปพร้อมกับบุตรสาววัย 13 ปี จากนั้นได้ไปจี้บังคับให้นายสิทธิพร ปิ่นแก้ว อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องให้ช่วยขับรถยนต์ของตำรวจ
ต่อมารถยนต์ไปชนราวเหล็กริมทาง และชนเสาไฟฟ้าจนรถตราโล่ได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเกริกพันธ์ฯใช้อาวุธปืนบังคับให้นายสิทธิพรฯขับรถต่อไป เมื่อถูกปฏิเสธจึงถูกนายแกริกพันธ์ฯใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่เข้าที่บริเวณศีรษะและแขนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายเกริกพันธ์ฯได้นำบุตรสาวเข้าไปหลบหนีในบ้านของนายชัยยันค์ คำตา ในบ้านเลขที่ 103//1ม.6 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จนเจ้าของบ้านต้องวิ่งหนีออกจากบ้าน และถูกรวบตัวได้ในที่สุด โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าร้านค้าขายของชำ ใกล้สี่แยกหนองเรือ บ้านเลขที่ 237 หมู่ที่ 8 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม เวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2565 บถถนนสายตลิ่งชัน-หน้าป่า ในส่วนของนายเกริกพันธ์ฯถูกตำรวจแจ้งข้อหาฐานความผิดในหลายข้อหา ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า ในส่วนของนายสิทธิพร ปิ่นแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 3 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่ถูกนายเกริกพันธ์ฯใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูใน รพ.พัทลุงนั้น ขณะนี้นายสิทธิพรฯได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อกลางดึกของวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในตอนสายวันนี้(ที่ 18) ได้ประสานงานไปยัง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.ฯสภ.ป่าพะยอม และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มารายงานรายละเอียดของคดีและความคืบหน้าของคดีด้วยวาจาที่ห้องทำงานแล้ว
ในส่วนของนายสิทธิพรฯที่ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น ยังมีประเด็นที่ทางพนักงานสอบสวนจะต้องขยายผลว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายสิทธิพรฯจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากการสอบปากคำในรายละเอียดจากนายเกริกพันธ์ฯในเบื้องต้นนั้นนายเกริกพันธ์ฯให้ปากคำว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว แต่เป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ขับรถยนต์ตามหลังรถตราโล่มา ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจพิสูจน์กันอีกหลายเรื่อง
ในส่วนของการไล่ล่านายเกริกพันธ์ฯและใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่นั้นเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากการสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อม และภาพจากภาพของกล้องวงจรปิดที่ทาง ตร.ได้ตรวจพบไม่พบการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดในด้านการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวที่ยังมีความซับซ้อนไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากจะส่งผลกระบบต่อการสืบสวนสอบสวน และการขยายผลดีดังกล่าว
Discussion about this post