
วันนี้ (19 ต.ค.)ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ภายหลังจากที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมแหล่งเพาะปลูกส่งผลให้พืชผักในหลายพื้นที่ที่เป็นต้นทางผักสดหลายชนิดที่ส่งลงมาทางภาคใต้เกิดขาดตลาด เช่นผักบุ้ง ส่งผลให้พืชผักหลายชนิดมีราคาแพงขึ้น โดยจากการสำรวจในตลาด สดเทศบาลเมืองเบตง พบว่าผักหลายชนิดมีราคาแพงขึ้น โดยผักบางชนิดราคาแพงจากเดิมกว่า 2 เท่าตัว เช่น ผักบุ้งจากเดิม กิโล กรัมละ 40 บาท ตอนนี้ขายกิโล กรัมละ 140 บาท แต่ช่วงนี้ผักบุ้งขาดตลาดถ้ามีก็มีน้อย ส่วนผักชีก่อนหน้านี้ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 170 บาทตอนนี้ขายกิโลกรัมละ 220 บาท ต้นหอม เดิมราคากิโล กรัมละ 160 บาท แต่ตอนนี้พุ่งเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท ขึ้นฉ่ายเดิมราคากิโลกรัมละ 150 บาท แต่ตอนนี้พุ่งเป็นกิโลกรัมละ 180 บาท มะระ เดิมราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท แต่ตอนนี้พุ่งเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท แม่ค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาผักปีนี้แพงที่สุดในรอบ 10 ปี จนแม่ค้าบางรายไม่กล้ารับผักที่มีราคาแพงมากมาขาย เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ทั้งกลัวว่ารับมาแล้วจะขายไม่ได้อาจทำให้ผักเหลือตกค้างและขาดทุน เพราะประชาชนก็ไม่มีกำลังซื้อ
แม่ค้าขายผักในตลาดเทศบาลเมืองเบตง บอกอีกว่า ตนขายผักมา 10 กว่าปี ผักไม่เคยแพงมากขนาดนี้ ซึ่งปีนี้บางอย่างราคาพุ่งกว่า 2 เท่าตัว ที่ผ่านมาช่วงเทศกาลกินเจราคาผักก็แพงอยู่แล้ว แต่ยังไม่แพงเท่าช่วงนี้ เชื่อว่าเพราะผลกระทบจากน้ำท่วมแหล่งปลูก ในหลายพื้นที่ ซึ่งอำเภอเบตงเรารับผักมาจาก ราชบุรี นครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นทางเพาะปลูก พอเจอสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้ราคาผักเกือบทุกอย่างมีราคาพุ่งขึ้น 2 เท่าตัว ทำให้ช่วงนี้ต้องลดปริมาณการรับซื้อผักลดลงจากเดิม เพราะสู้ต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว ประกอบกับยอดขายก็ลดลงเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ.
Discussion about this post