
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมดิอิมเพรสน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายชาญวิทย์ โวหาร นักวิชาการนโยบายและแผนอาวุโสเชี่ยวชาญ สำนักรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ติดตามและประเมินผลผู้นำเครือข่ายภาคประชาชนด้านการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมระดับจังหวัด 77 จังหวัด ประจำปี 2565 โดยมีผู้นำเครือข่ายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ภาคเหนือตอนบนและตอนกลาง เข้าร่วมรับฟังการเสวนาและร่วมกิจกรรมการอบรมฯ
สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช. ได้จัดการอบรมฯ ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และร่วมกันระดมสมอง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความเห็นของเครือข่ายผู้บริโภค เพื่อนำไปใช้ประกอบการกำหนดแนวทางการทำงานของเครือข่ายและสำนักงาน กสทช. ให้ดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ มีการลงพื้นที่ในจังหวัดนำร่องเพื่อค้นหาเครือข่ายต้นแบบ และติดตามประเมินผลการดำเนินงานของผู้นำเครือข่ายการดำเนินงานด้านการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้นำมาเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดแนวทางการดำเนินงานของเครือข่ายต่อไป

นายชาญวิทย์ โวหาร กล่าวว่า ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดและมีการนำไปประยุกต์ใช้ ที่หลากหลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้เกิดทั้งความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือเพื่อเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวก รวดเร็ว หากการใช้งานเทคโนโลยีเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เท่าทัน หรือขาดความรู้ ความเข้าใจอย่างเพียงพอ อาจนำมาซึ่งปัญหาจนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ สำนักงาน กสทช. ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเพื่อให้สามารถใช้บริการโทรคมนาคมอย่างถูกต้อง อย่างเป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบ รู้เท่าทันการใช้งานเทคโนโลยี และสื่อดิจิทัลต่างๆ ให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับ ข้อกฎหมายที่ กสทช. นำมาบังคับใช้ในการกำกับดูแลการให้บริการโทรคมนาคมของผู้ประกอบกิจการ จึงได้ดำเนินงานต่างๆ เพื่อสร้างผู้นำเครือข่ายภาคประชาชน ด้านการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมในระดับจังหวัด จำนวน 77 จังหวัด ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และได้พัฒนาต่อยอดกลไกเครือข่ายดังกล่าวไปสู่การสร้างเครือข่ายในระดับอำเภอให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง
Discussion about this post