จับสึกพระใบฎีกาเจ้าอาวาสหื่นบังคับเณรอมนกเขา หนีกลางดึกไปกบดานบ้านเกิดที่จังหวัดแพร่ ไม่รอด

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น. ที่วัดกู่คำ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน ได้นำตัว พระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร เจ้าอาวาสวัดแคว้ง หมู่ที่ 2 ตำบลแหนงแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน หลังก่อเหตุอนาจารสามเณรในวัด บังคับสามเณรอมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ แล้วหนีออกจากวัดกลางดึก (เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2565) หนีไปกบดานบ้านเกิดที่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ โดยที่ พ.ต.อ.สุวัตน์ จินดาวรรณ รรท.ผกก.สภ.แม่จริม ได้จัด จนท.ตร.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเฝ้าประกบดูความเคลื่อนไหวอยู่แล้ว ขับรถตามไปห่างๆ ตามรวบตัวนำกลับมาทำการสึก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ได้มีนางวัน (นามสมมติ) ได้นำสามเณร ชิน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.กิตติกร กันบุญ พงส.สภ.แม่จริม จ.น่าน ได้รับคำร้องทุกข์ให้จับกุมดำเนินคดี พระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร เจ้าเป็นอาวาสวัดแคว้ง หมู่ที่ 2 ตำบลแหนงแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ที่บังคับสามเณรชิน (นามสมมติ) สำเร็จความใคร่โดยการบังคับให้เณรอมนกเขา โดยสามเณรและแม่ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2565 สามเณรชิน (นามสมมติ) ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด หลังได้บวชเรียนที่สำนักเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอภูเพียง และอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน พร้อมสามเณร อีก 3 รูป ได้ไปพักอาศัยอยู่ที่กุฏิวัดบ้านแคว้ง หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด จากนั้นสามเณรได้ส่งข้อความมายังโทรศัพท์ให้แม่มาหา และได้เล่าให้ฟังว่าในคืนวันที่ 15 ตุลาคม ต่อเนื่องวันที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 00.02 น.ขณะที่สามเณรชิน (นามสมมติ) อาศัยอยู่ที่กุฎีวัดบ้านแคว้ง ได้มีพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแคว้ง และได้พักอาศัยอยู่ในกุฏิเดียวกันแต่คนละห้อง ได้เข้าไปหาและนอนบนที่นอนข้างสามเณรชิน (นามสมมติ) จากนั้นได้บังคับให้สามเณรชิน (นามสมมติ) ใช้ปากอมอวัยวะเพศชายของพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแคว้ง และได้กอดจูบใช้ปากและลิ้นเลียที่บริเวณนมและปากของสามเณรชิน (นามสมมติ) สามเณรชินได้ขัดขืนและพยายามร้องให้คนช่วยแต่ขู่ จนพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเจ้าอาวาสวัดแคว้ง สำเร็จความใคร่แล้วได้กลับห้องไป

หลังทราบเรื่อง นางวัน (นามสมมติ) มารดา ทราบเรื่องได้นำสามเณร ชิน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้แจ้งจึงได้ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าคณะอำเภอแม่จริม ทราบ จากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 มี่ผ่านมา หลังรับแจ้งได้ส่งตัว สามเณร ชิน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแม่จริม พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เฝ้าประกบติดตามระหว่างรวบรวมพยานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับจนเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2565) คาดว่า พระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ จะรู้ตัว ได้เก็บข้าวของและให้คนขับรถขับรถหนีออกจากวัดไป โดยหลอกคนขับรถว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่อำเภอสูงเม่น จึงหวัดแพร่ โดยที่ จนท.ตร.ชุดชุดสืบสวนที่เฝ้าติดตามอยู่จึงขับรถสะกดรอยตามไปห่างๆ จนไปถึงบ้านเกิดของพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ที่อยู่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ หลังเฝ้าดูอยู่และคาดว่าพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เตรียมจะหลบหนีไปที่อื่น จึงแสดงตัวและซักถามจนพระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้ยอมรับว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง จึงควบคุมตัวกลับมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน จากนั้นได้นำตัว พระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกวโร ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ไปทำการสึกที่วัดกู่คำ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน หลังทำการสึกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว พร้อมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยา หรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม นำตัวส่ง ร.ต.อ.กิตติกร กันบุญ พงส.สภ.แม่จริม
จ.น่าน เพื่อดำเนินคดี ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำเรียนเหตุการณ์ดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการและกำชับมายังตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จากการสอบถามนายจักรพงษ์ ผู้ก่อเหตุแล้วให้การยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง จึงแจ้งให้ทราบว่าได้กระทำผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นปาราชิก ผิดกฎหมายบ้านเมือง กระทำผิดอาญาแผ่นดิน จึงนำมาสึกก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป