
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 ตำรวจภูธรจังหวัดน่านออกหนังสือแถลง กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่าผู้ต้องหากระโดดหนีจากรถนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดน่านได้ชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เรือง ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบห้วงระดมกวาดล้างขณะออกตรจสอบมาถึง บริเวณถนนสาธารณะทางไปสวนยางหลังหมู่บ้านนามน หมู่ 7 ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
พบชายไทยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผ่านแสดงท่าทางมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดรถ แล้วจึงได้ทำการตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายเมฆฯ นามสมมติ ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุรปืน ฯ มาก่อน
จากการสอบถามนายเมฆ ฯ รับว่าได้เสพยาบ้ามาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม จำนวน 2 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงขอตรวจสอบปัสสาวะเบื้องต้น ผลการตรวจผลเป็นบวก (สงสัยจะมีสารเสพติดในร่างกาย)
จึงได้นำตัวพร้อมตัวอย่างปัสสาวะ ไปที่ สภ.เรือง เพื่อทำหนังสือส่งตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลน่าน และทำบันทึกที่เกี่ยวข้อง จากการสอบถาม นายเมฆ ฯ ให้การว่าตนมีอาการเป็นไข้ เป็นเหตุให้ จนท.ตำรวจ เกรงว่านายเมฆ ฯ อาจจะติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งอาจแพร่เชื้อได้ จึงให้นายเมฆ ฯ นั่งท้ายกระบะตำรวจ
จากนั้นได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงถนนภายในหมู่บ้านม่วงเจริญราษฎร์ ต.บ่อสวก อ.เมืองน่าน จ.น่าน โดยได้ขับขี่มาไม่เร็วเนื่องจากเป็นเขตชุมชน เป็นจังหวะที่นายเมฆ ฯ ถือโอกาสกระโดดลงจากท้ายกระบะรถ แต่มือไปเกี่ยวกับเชือกมัดรถจักรยานยนต์ท้ายกระบะ เป็นเหตุให้นายเมฆ ฯ ติดอยู่ข้างรถด้านซ้ายไปประมาณ 10 เมตร จนท.ตำรวจจึงได้หยุดรถตรวจสอบ และพบว่านายเมฆ ฯ ได้รับบาดเจ็บบริเวณเท้าทั้งสองข้าง
จึงได้ให้การช่วยเหลือและได้เรียกหน่วยกู้ภัยมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามว่า เหตุใดจึงกระโดดลงจากรถ ทางนายเมฆ ฯ อ้างว่าเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาก่อน จึงกลัวความผิด จึงได้กระโดดลงรถเพื่อจะหลบหนี ต่อมา จนท.กู้ชีพ อบต.บ่อสวก ได้นำนายเมฆ ฯ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปดูอาการนายเมฆ ฯ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บสามารถพูดคุยได้ จึงได้จัดทำบันทึกสอบถามสาเหตุที่กระโดดลงจากท้ายกระบะรถและไม่ติดใจในการได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้
ตามบันทึกที่จนท.ตำรวจได้จัดทำไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจนท.ตำรวจได้นำตัวอย่างปัสสาวะของนายเมฆ ฯ ตามบันทึกยินยอมให้ทำการตรวจสอบปัสสาวะ ส่งตรวจยืนยันผลที่ โรงพยาบาลน่านและได้รับผลการตรวจจากโรงพยาบาลน่าน พบสารเสพติดในปัสสาวะ ของนายเมฆ ฯ แต่จนท.ตำรวจยังไม่สามารถทำการจับกุมตัวได้เนื่องจาก นายเมฆ ฯ อยู่ระหว่างการรักษาตัวของแพทย์ที่ โรงพยาบาลน่าน จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี นายเมฆ ฯ ในข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่ (รถจักรยานยนต์) เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า โดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเกท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย เหตุเกิด ต.บ่อสวก อ.เมืองน่าน จ.น่าน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 11.30 น.
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งจับภาพนาทีที่นายเมฆ มีสภาพหมดสติและห้อยอยู่บริเวณข้างรถกระบะโดยมีมือข้างซ้ายถูกใส่กุญแจมือติดอยู่กับรถและขาลากครูดกับถนนไปเป็นภาพที่น่าเวทนามาก
โดย พรพิมล ที่เปิดร้านขายของอยู่หน้าบ้าน หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ระหว่างที่ขายของอยู่หน้าบ้าน ก็เห็นรถกระบะขับผ่านมาสังเกตเห็นว่าท้ายรถมีอะไรห้อยอยู่แว็บๆ ตอนแรกเข้าใจว่าเสื้อผ้า แต่พอสังเกตดูดีๆ ปรากฎว่า เป็นคนลักษณะไม่ได้สติเหมือนตายแล้ว รู้สึกตกใจจึงออกมาดูก็ไม่ทันเห็นรถขับผ่านไปแล้ว
สักพักก็เห็นรถขับผ่านกลับมาแล้วไปจอดหน้าสถานนีอนามัยแล้ว จนท.กู้ชีพ อบต.บ่อสวก ก็มารับไปรักษาตัวต่อ ส่วนที่ทางตำรวจแถลงว่าตกรถมา 10 เมตร ตนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีคนเห็นหลายคนว่าห้อยอยู่ข้างรถมาไม่ต่ำกว่า 500 เมตร
ตนเห็นแล้วยังรู้สึกสงสารลุง เพราะภาพดังกล่าวลูกของตนวัย 4 ขวบก็เห็นถึงกับร้องไห้จ้าจนตอนนี้เป็นไข้ไปเลย ส่วนตนตกกลางคืนก็ยังนอนไม่หลับเพราะภาพมันติดตา เป็นภาพที่น่ากลัวมาก
ด้านมะนาว หลานสาวของนายเมฆ ได้เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากแถลงการของตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ขัดแย้งกับความเป็นจริงเกือบทุกอย่าง โดยเล่าว่าขณะจับกุมนายเมฆ ไม่ได้ขับรถอยู่และไม่ใช่การโบกจอดตามถนน นายเมฆอยู่บนกระท่อมเนื่องจากกำลังสีข้าวกันอยู่ โดยมีพยานมากกว่า 10 ปากยืนยันได้ว่ามาขอตรวจปัสสาวะขณะอยู่ที่กระท่อมเถียงนา กับไปตั้งข้อหาว่า เสพยาเสพติดแล้วขับและทำไมจับกุมตัวไปแล้วตั้งแต่เวลา 10.30 น. ตอนเอาตัวไปก็เอานั่งข้างใน แต่กลับแจ้งว่าจะไปรอจับผู้ต้องหาอีกคน แล้วเอานายเมฆ มานั่งกระบะท้ายใส่กุญแจมือปล่อยให้ตากแดดกี่ชั่วโมง เพราะจากการที่ไปไล่สอบถามจุดที่ชาวบ้านพบว่าคนตกรถคือเวลา 12.20 น.

และจากการที่ได้สอบถามนายเมฆ ได้เล่าให้ฟังว่า ไม่ได้โดดรถหนี แต่เนื่องจากไม่สบายและกินยาหลายอย่างจนมาถึงบริเวณก่อนถึงเขียงหมูห่างจากมีคนพบว่านายเมฆห้อยอยู่ข้างรถ 2.4 กิโลเมตร นายเมฆบอกว่ารู้สึกหน้ามืดแล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
อีกอย่างอยากถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตอนขับรถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาท่านไม่มองกระจกบ้างหรือถึงไม่เห็นว่ามีคนตกรถ รวมทั้งการให้นายเมฆ เซ็นยินยอมว่าไม่เอาเรื่องทั้งที่ยังป่วยยังไม่คืนสติมันชอบด้วยกฏหมายหรือเปล่า รวมทั้งการกระทำเป็นการประมาทหรือกระทำเกินกว่าเหตุไหม
ทั้งนี้ทางญาติได้แจ้งว่าจากจุดที่นายเมฆแจ้งว่าหน้ามืด พบรองเท้ายางของนายเมฆ ตกอยู่มีร่องรอยการครูดกับถนน และมีรอยเลือดเป็นทางยาวตั้งแต่จุดนั้นไปจนถึงสามแยกที่มีชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่จอดรถ แต่คืนก่อนเกิดฝนตกทำให้รอยเลือดหายไป มีเพียงภาพถ่ายที่ชาวบ้านถ่ายไว้
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องแล้วได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพร้อมให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ด้านผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายตำรวจชุดสืบสวนมือพระกาฬท่านหนึ่งของจังหวัดน่าน ถึงกรณีดังกล่าว นายตำรวจดังกล่าวไม่ขอให้ความคิดเห็น แต่ให้ข้อปฏิบัติตามยุทธวิธีการควบคุมขนย้ายผู้ต้องหาว่า ควรกระทำและใช้กำลังให้สมควรแก่คดี การควบคุมในรถก็ควรเปิดกลไกลที่ประตูให้เปิดจากด้านนอกได้อย่างเดียวและควรมีเจ้าหน้าที่นั่งประกบไปด้วย
ส่วนการนั่งกระบะท้ายควรให้นั่งราบกับพื้นกระบะและควรมีเจ้าหน้าที่นั่งประกบไปด้วย หากสงสัยว่าผู้ต้องหาติดโควิด เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมควรอยู่เหนือลม รวมทั้งการใช้เครื่องพันธนาการก็ให้เหมาะสมแก่เหตุว่าคดีร้ายแรงรุนแรงจนผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไม่
ทั้งนี้การควบคุมขนส่งผู้ต้องหาเป็นยุทธวิธีที่ไม่ตายตัว แต่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและไม่เป็นการละเมิดสิทธิ์เกินขอบเขต
@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post