จากกรณีตำรวจจังหวัดอุดรธานีบุกค้นบ้านเสี่ย ป.อายุ 55 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี กลางดึกวันที่ 26 ตุลาคม 2565 หลังมีผู้ปกครองหญิงสาววัย 16 ปีแจ้งตำรวจโดนเสี่ย ป.ชักชวนถ่ายภาพและคลิปเปลือย และยังมีเด็กสาวอายุ 14- 17 ปีหนีออกจากบ้านมาอยู่บ้านเสี่ย ป. จำนวนมาก จากการตรวจค้นพบเด็กสาววัย 15 ปีอยู่ในบ้าน 2 คน อุปกรณ์ถ่ายภาพสตูดิโอในห้องนอน ถุงยาง ขวดเหล้า เสี่ย ป.อ้างไม่เคยล่วงละเมิดเด็กสาวเพราะรักเหมือนลูก ตำรวจยึดคอมพิวเตอร์ เมมโมรี่การ์ด โน้ต บุ๊ค ตรวจสอบพบวีดีโอเสี่ย ป.มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวยาว 30 นาที จึงส่งอุปกรณ์ไปกู้ภาพที่ พฐ.นครราชสีมา ส่วนญาติยังไม่ยื่นประกันตัว
ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2565 นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้นำนายน้อย นามสมมติ อายุ 51 ปี พ่อ น.ส.นิด นามสมมติ อายุ 16 ปี ที่เสี่ย ป. ชักชวนไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย มายื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวเสี่ย ป.ชั้นพนักงานสอบสวน เพราะเกรงว่าจะไปยุ่ง เหยิงกับหลักฐานและพยาน เพราะเป็นคนมีฐานะ และกว้างขวางในสังคม โดยมี พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบ สวน) สภ.เมืองอุดรธานีเป็นตัวแทนรับหนังสือ
ส่วนนายน้อย อายุ 51 ปี พ่อ น.ส.นิด อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า แม่ น.ส.นิดเสียชีวิตไปนานแล้ว และตนมีภรรยาใหม่ ตนมีลูก 2 คน น.ส.นิดเป็นลูกสาวคนเล็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานเสิร์ฟอาหาร ลูกเป็นเด็กเชื่อฟังตนดี บอกตนว่าจะไปนอนบ้านเพื่อน ตนจึงอนุ ญาต และมารู้เรื่องเมื่อตำรวจมาที่บ้าน ว่าลูกสาวโดนเสี่ย ป.ไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย ได้เงิน 600 บาท ลูกเกรงว่าภาพจะหลุดไปในโลกโซเชียล ตนรู้สึกตกใจมาก และเสียใจมาก จึงพาลูกมาแจ้งตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับเสี่ย ป. จนถึงที่สุด และมาคัดค้านการประกันตัว ฝากถึงผู้ปกครอง ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าปล่อยปะละเลย
นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เปิดเผยว่า ได้นำผู้ปก ครองซึ่งเป็นผู้เสียหาย ซึ่งเกิดความกลัว เพราะว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีฐานะ ถ้าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานและหลักฐาน กลัวถูกข่มขู่ และไม่รู้ว่าภาพและคลิป ลามกอนาจาร ที่ผู้ต้องหาได้ถ่ายเก็บเอาไว้ จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ หรือโทร ศัพท์ที่ตำรวจตรวจยึด หรือผู้ต้อง หาเก็บเอาไว้ ไม่ทราบว่าเก็บไว้ในไดฟ์อื่น ไอคาวอื่น หรือคอมพิว เตอร์เครื่องอื่นอีกหรือไม่ หากผู้ต้องหาได้การประกันตัว แล้วมีความโกรธแค้นต่อน้องๆ อาจจะเอาคลิปออกไปเผยแพร่ก็ได้ ซึ่งผู้เสียหายและพ่อก็มีความกังวล จึงพาผู้เสียหายมายื่นคัดค้านการประกันตัว
ทางด้านนางแมว นามสมมติ อายุ 36 ปี แม่ น.ส.โม อายุ 15 ปี ที่พบอยู่ในห้องนอนบ้านเสี่ย ป.ขณะตำรวจบุกเข้าค้น เล่าว่า ตนแยกทางกับสามี เลี้ยงลูกตามลำพัง โดยน้องโมเป็นลูกคนโต เรียนอยู่ชั้น ม.3 เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่เคยเกเร ช่วงออกพรรษาลูกมาขอไปนอนบ้านเพื่อน ตนได้อนุญาต วันเดียวลูกก็กลับมาบ้าน จากนั้นลูกก็จะมาขอไปนอนบ้านเพื่อนเรื่อยๆ กระทั่งลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 23-26 ตุลาคม ตนได้ออกตามหาที่บ้านเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น ตนกำลังจะมาแจ้งตำรวจ ก็พบข่าวโซเชียลว่าลูกไปอยู่บ้านเสี่ย ป.จึงรีบมาโรงพัก สอบถามลูกทราบว่าเพื่อนชวนมาเล่น และเสี่ย ป.ไม่ได้ทำอะไร
ลูกหายไปหลายวันก็เป็นห่วง ออกตามหาทุกที แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น ครั้งแรกที่เห็นข่าวโซเชียล ก็จำเสื้อที่ลูกใส่ได้ พอรู้ว่าลูกอยู่ในบ้านเสี่ย ป. ก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าลูกจะไปอยู่บ้านคนอื่น เพราะลูกบอกว่าอยู่บ้านเพื่อน ไม่นานเจ้าหน้าที่ พมจ.ก็โทรศัพท์มาหา จึงรีบมาโรงพัก ฝากถึงผู้ปกครองที่มีลูกในวัยนี้ เป็นวัยที่ดื้อ ให้ดูบุตรหลานให้ดี เขาอยากได้อะไรก็หาให้ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องห้าม ไม่ใช่ตามใจทุกเรื่อง และฝากถึงเสี่ย ป. ไม่อยากให้ทำกับเด็กคนอื่นอีก เพราะไม่ดีต่อสังคม เพราะลูกเราก็รัก เลี้ยงมาแต่เล็กจนโต อย่าไปทำกับเด็กอื่นอีก”
ส่วนตำรวจและสหวิชาชีพได้นำเด็กสาวทั้ง 6 คน มาสอบสวนปากคำ โดยแยกสอบสวน ว่าเด็กมาอยู่บ้านเสี่ย ป.ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาอย่างไร รวมถึงพฤติกรรมของเสี่ย ป ที่กระทำกับเด็ก เพื่อรวบหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post