
วันที่ 14 พ.ย. 65 ร.ต.อ.ธวัช หน่อสิงหา ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งความจาก น.ส.พิมพา พรหมดี อายุ 59 ปี ให้ดำเนินคดีกับ นายอัครพงษ์ อาษาเสน อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย ที่หายตัวไปพร้อมบัตรเอที เอ็มของตนเอง และ รถจยย. ขณะให้ไปกดเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน
น.ส.พิมพา ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ตนเองกำลังจี่จยย. พ่วงข้าง เร่ขายส้มตำ โดยนายอัครพงษ์ บุตรชาย ได้มาช่วยขายอยู่หลายวันแล้ว โดยปกติจะเที่ยวเตร่ และ ติดยาบ้า จนกระทั่งมาเข้ารับการบำบัด ที่ รพ.ระยอง พร้อมบอกว่าจะกลับตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่
ทางตนจึงให้โอกาส เป็นจังหวะที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อส้มตำหลายราย ทางตนเอง จึงนำบัตรเอทีเอ็ม ที่มีเงินอยู่ จำนวน 2,000 บาท ให้ นายอัครพงษ์ ไปช่วยกดเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ในวันนี้ โดยบุตรชายได้ขี่รถจยย.ออกไปพร้อมกับบัตรเอทีเอ็ม เพื่อไปกดที่ตู้เอทีเอ็มที่อยู่ห่างออกไปเพียง 2 กม. ผ่านไป 1 ชั่วโมงก็ยังไม่มา พยายามโทรหาก็ติดต่อไม่ได้ แล้วก็ไม่ติดต่อกลับมา และ พรุ่งนี้เป็นวันนัดเข้ารับการบำบัดยาเสพติดที่ รพ.ระยอง หมดความอดทนไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำกับแม่ ให้อภัยมาตลอด จนตั้งชื่อร้านส้มตำว่า” ส่มตำแม่ที่ลูกลืม” แต่ครั้งนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะยังไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้าน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับลูกตัวเอง ให้ติดคุกเสียบ้างอาจจะกลับตัวกลับใจ เพราะหากปล่อยไว้ก็ไม่พ้นต้องถูกจับข้อหายาเสพติด ทุกข์ใจมาก ทำไมลูกต้องมาเป็นทาสยาเสพติด ติดมาหลายปี เลิกไม่ได้ เมื่อไหร่ยาบ้าจะหมดไปจากสังคมเสียที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ โดยแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามจับกุมตัว นายอัครพงษ์ ทันที.
Discussion about this post