วันที่ 14 ธ.ค. 65 พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา นำคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งประกอบด้วย นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองประธานคณะกรรมาธิ การ คนที่ 1 , นายจรินทร์ จักกะพาก รองประธานคณะกรรมาธิ การ คนที่ 2 ,พลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร รองประธานคณะกรรมาธิ การ คนที่ 4 , นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขานุการคณะกรรมา ธิการ , นายจิระชัยมูล ทองโร่ย โฆษกคณะกรรมาธิการ , นายมนัส โกศล อนุกรรมาธิการด้านสวัสดิ การและคุ้มครองแรงงาน , พลตำรวจตรี สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ เดินทางลง พื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อศึกษาดูงานประเด็นสถานการณ์ด้านแรงงาน สถานการณ์เศรษฐกิจการค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ของจังหวัดนครพนม ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) โดยมี นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำส่วนราชการ รวมทั้งภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องเข้า อาทิ พาณิชย์จังหวัดนครพนม , โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม , ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนคร พนม , หอการค้าจังหวัดนคร พนม , ด่านศุลกากรนครพนม และแรงงานจังหวัดนครพนม เป็นต้น เข้าให้ข้อมูลในประเด็นความคืบหน้าของการดำเนินงานและการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในประเด็นต่างๆ อาทิ ประเด็นที่ สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน การขนส่ง การบริหารจัดการแรงงานและผู้ประกอบการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม และ ประเด็น ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการที่ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม เช่น 1. แนวเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด –มุกดา หาร – นครพนม – สถานีสะพานมิตรภาพ 3 (สถานีปลายทาง) โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย 2. โครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership หรือ PPP) โดย ขนส่งจังหวัดนครพนม 3. การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐ กิจพิเศษ โดย บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหา ชน)
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการการแรง งาน วุฒิสภา ในครั้งนี้ เพื่อศึกษาและรับฟังในประเด็นเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การขนส่ง การบริหารจัดการแรงงานทั่วไปและแรงงานต่างด้าวรวมทั้งผู้ประกอบการ ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ตลอดจนสถานการณ์ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกรณีศึกษาด้านแรงงานที่สมควรถูกหยิบยกมา เพื่อพิจารณาความสำเร็จที่เกิดขึ้น แนวทางที่กำลังเป็นอยู่ รวมถึงการเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ต้องดำเนินการให้ลุล่วง เพื่อการพัฒนาภาคแรงงานเป็นเบื้องต้น จนนำไปสู่การพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการปฏิรูปประเทศให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในที่สุด
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า จากการติดตามรับฟังสถานการณ์ในจังหวัดพนม พบว่า จังหวัดนคร พนมมีศักยภาพในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านพื้นที่ที่เป็นเมืองชายแดน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านอุตสาห กรรมและด้านแรงงาน ในส่วนของศักยภาพด้านแรงงานนั้น จังหวัดนครพนมมีกำลังแรงงานในพื้นที่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน สามารถรองรับและตอบสนองต่อการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนมได้ โดยมีผู้อยู่ในกำลังแรงงานในเขตจังหวัด จำนวน 303,818 คน มีผู้ว่างงานจำนวน 5,289 คน และผู้รอฤดูกาล จำนวน 426 คน ทั้งนี้ มีแรงงานต่างด้าวได้รับอนุญาตทำงานในเขตจังหวัดนครพนม จำนวน 2,085 คน โดยกิจการที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าวมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่งานบ้าน การ เกษตรและปศุสัตว์ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม การค้าส่ง ค้าปลีก แผงลอย และ การให้บริการต่าง ๆ ซึ่งสามารถรองรับและส่งเสริมการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ทำให้เกิดโครงการสำคัญๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการด้านแรงงาน นั่นคือ โครงการศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ด้านแรงงานต่างด้าวเพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวอีกด้วย.
Discussion about this post